การเตรียมพร้อมสู้คดี "ประสาทเขาพระวิหาร" ของไทย

 

หลังการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร เมื่อเดือนกรกฏาคมปี 2551 รัฐบาลไทยได้เตรียมการต่อสู้ในคดี หลังมีข่าวกัมพูชาจะเสนอให้ตีความคำพิพากษาปี 2505  เตรียมการให้นายวีรชัย พลาศรัย อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญาและกฏหมาย ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจบปริญญาเอกด้านกฏหมายระหว่างประเทศจากฝรั่งเศส เป็นเอกอัครราชทุตไทยประจำกรุงเฮก เพื่อเตรียมการต่อสู้ในคดี มีการว่างจ้างนาย เจมส์ ครอฟอร์ด ชาวออสเตรเลีย  ศาสตราจารย์ด้านกฏหมายระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์  นายโดแนลด์ แมคเรย์ จากแคนนาดา  ทนายความของรัฐบาลนิวซีแลนด์ ด้านกฏหมายระหว่างประเทศ  และนาย อลัง แปลเล่ต์ จากฝรั่งเศส  ศาสตราจารย์ด้านกฏหมายจากมหาวิทยาลัยปารีส นองแตร์  ซึ่งทั้งสามคนมีความสามารถโดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมต่อสู้ในคดี

 

แนวทางต่อสู้ของไทย จะชี้ให้ศาลเห็นถึงคำร้องขอตีความในเรื่องเขตแดนเป็นคำร้องที่มิชอบ และเห็นว่าปัญหาขัดแย้งเส้นเขตแดน เพิ่งเกิดขึ้นหลังการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี 2551 ที่กัมพูชาต้องการครอบครองดินแดนของไทยที่อยู่รอบปราสาท และยังเห็นว่าการขอตีความ ไม่ได้ตีความในส่วนที่เป็นคำพิพากษา  แต่กลับขอศาลให้ตัดสินในเรื่องเส้นเขตแดน ซึ่งศาลไม่ได้ตัดสินในปี 2505

 

ณัฎฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผย ข้อต่อสู้ของทีมทนายความไทยได้ผ่านความเห็นชอบ ประเด็นของเนื้อหาถ้อยคำ โดยคาดหวังว่าการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีในครั้งนี้ จะทำให้คนในชาติเข้าใจถึงแนวทางการต่อสู้ของฝ่ายไทย

 

ในวันที่ 13 เมษายนเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก  หัวหน้าทีมทนายความไทย จะนำทีมทนายความร่วมประชุมกับคณะทำงานในคดีปราสาทพระวิหาร ที่เดินทางไปจากประเทศไทย  เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมด ก่อนแถลงด้วยวาจาในวันพุธที่ 17 เมษายน

 

การแถลงด้วยวาจาในสัปดาห์หน้า จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 วัน ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้แถลงฝ่ายละสองวัน   คาดว่าศาลจะนัดฟังคำตัดสินในช่วงปลายปี 2556 นี้