รมว.ต่างประเทศ เชื่อ
ก่อนออกเดินทางไปกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อร่วมรับฟังการอ่านถ้อยแถลงปิดคดีปราสาทพระวิหารในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก และเตรียมพร้อมประเมินถ้อยแถลง เพื่อเพิ่มเติมข้อมูลให้คณะผู้แทนฝ่ายไทยในการต่อสู้คดี แถลงปิดคดีด้วยวาจาเพิ่มเติม
โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อเนื้อหาและประเด็นในถ้อยแถลงปิดคดีที่จัดเตรียมไว้ครอบคลุมทุกประเด็นแล้ว ทั้งข้อเสนอแนะและกรอบความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี รวมถึงข้อห่วงใยและข้อเสนอของทุกฝ่าย จึงเชื่อมั่นว่า กัมพูชาหยิบยกประเด็นใดขึ้นมากล่าวอ้าง ไทยจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำให้ทุกคนรับฟังถ้อยแถลงปิดคดีปราสาทพระวิหารด้วยสติ โดยแน่ใจว่า ศาลโลกจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ประเทศ และพิจารณาคดีโดยคำนึงถึงหลักความสงบสุขของไทยและกัมพูชา
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า การจัดกำลังทหารตามแนวชายแดนไทยกัมพูชายังคงอยู่ในระดับปกติ เพราะเชื่อมั่นว่า ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่ใช่การตัดสินคดี ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า หลังการแถลงปิดคดี ผู้พิพากษาในศาลโลกจะใช้เวลาเขียนคำวินิจฉัยส่วนตัว อย่างน้อย 6 เดือน หรือประมาณเดือนกันยายนและตุลาคม ถึงจะนัดฟังคำพิพากษาคดีอีกครั้ง
คณะผู้แทนฝ่ายไทย เพื่อต่อสู้คดี นำโดยนายวีรชัย พลาศรัย ในฐานะหัวหน้าคณะออกเดินทางไปล่วงหน้าแล้ว เมื่อวันที่ 10 เมษายนเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก โดยจะใช้เวลาก่อนศาลนัดหมายหารือกับคณะทำงานที่ปรึกษาพิเศษและผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ
ส่วนคณะทำงานเกี่ยวกับคดี ซึ่งเดินทางพร้อมนายสุรพงษ์และพลอากาศเอกสุกำพล จะมีพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.นพดล โชติศิริ เจ้ากรมแผนที่ทหาร พล.ท.วรวิทย์ ดรุณชู เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 และผู้แทนกองทัพบก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทีม เพื่อประเมินการแถลงและเพิ่มเติมข้อมูลในการชี้แจงด้วย และตลอดการแถลงปิดคดี ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 15-19 เมษายนนั้น ในวันจันทร์นี้ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดศูนย์ หรือวอร์รูม เพื่อติดตามการแถลง ที่ทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดตั้งศูนย์ข่าวเพื่อถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ของศาลโลกและเว็บไซต์ของสหประชาชาติ พร้อมกับการแถลงข่าวสรุปประเด็นในแต่ละวัน ก่อนเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์
นอกจากนั้นก็จะเผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ เอ็นบีที และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ตลอดจนสถานีวิทยุสราญรมย์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสและรับทราบข้อมูลโดยทั่วกัน