คำร้องตีความกัมพูชากับกรอบการพิจารณาของศาล
หลังคำกล่าวแถลงของฝ่ายไทยภายในวังสันติภาพหรือ peace palace เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นาย อับดุลย์ อาเหม็ด ยูซุฟ ผู้พิพากษาจากโซมาเลีย มีคำร้องขอถึงฝ่ายไทยและกัมพูชา ให้ระบุพื้นที่ใก้ลเคียงรอบตัวปราสาท ที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นว่าเป็นบริเวณพื้นที่ซึ่งตรงกับที่ระบุไว้ในคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ใก้ลเคียงรอบตัวปราสาท โดยคำร้องของนายอาเหม็ด ยูซุฟ บอกให้เห็นถึงข้อสงสัยที่เกิดขึ้น หลังกัมพูชาและไทย มีแนวทางการต่อสู้ที่แตกต่างกัน ต่อคำนิยามของคำว่า vicinity ที่ศาลโลกมีคำพิพากษาเมื่อปี 2505
หลังจากศาลโลกมีคำสั่งในวันที่15 มิถุนายน 2505 คณะรัฐมนตรีของไทยมีมติในวันที่ 10 กรกฏาคมปีเดียวกัน กำหนดพื้นที่ใกล้เคียงตัวปราสาท ที่ฝ่ายไทยต้องปรับกำลังออก โดยมีระยะห่างทางตะวันตกของตัวปราสาท100 เมตร และ 20 เมตร ด้านทิศเหนือของบันได้นาคขั้นสุดท้าย รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 175 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายึดเส้นเขตแดนตามแผนที่แอนเน็กซ์วัน หรือแผนที่ระวางดงรักอัตราส่วน 1:200,000 ซึ่งกัมพูชาเห็นว่าไทยต้องถอนกำลังขึ้นไปอยู่ด้านเหนือของเส้นเขตแดน ไม่ใช่ถอนออกจากพื้นที่ี่ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยหลังปรึกษาหารือร่วมกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก เห็นตรงกันว่าพื้นที่ใก้ลเคียงตัวปราสาท ที่จะรายงานให้ศาลโลกทราบ คือ พื้นที่ตามมติคณะรัฐมนตรี2505
แนวทางการต่อสู้ของไทยในศาล เน้นให้เห็นถึงจุดบกพร่องและความไม่น่าเชื่อถือของแผนที่แอนเน็กซ์วัน และเห็นว่าศาลไม่ควรใช้แผนที่นี้กำหนดเส้นเขตแดน และฝ่ายความมั่นคงไทยเชื่อว่าหากศาลให้น้ำหนักกับข้อต่อสู้ของไทย คำตัดสินที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้(2556) จะเป็นการกำหนดพื้นที่ใก้ลเคียงตัวปราสาท มากกว่าการใช้แผนที่แอนเน็กซ์วัน กำหนดเขตแดนรอบปราสาทตามที่กัมพูชาร้องขอ