ผู้บริหารอุตสาหกรรมแนะ
เงื่อนไขที่กำหนด คือ คู่ขัดแย้งทั้งนายพยุงศักดิ์ และนายธนิต ต้องไม่ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ หากนายพยุงศักดิ์ ยืนยันจะอยู่ในตำแหน่ง ก็ควรให้กรรมการบริหารฝ่ายนายธนิต กลับสู่สถานะเดิม เพื่อไม่ให้มีช่องว่างการบริหารงาน โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัด
นายธนิต เห็นว่าควรแก้ปัญหาเรื่องความปรองดองอันดับแรก ขณะที่แก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับโครงสร้างสมาชิก ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ส่วนข้อบังคับใหม่ที่มีขึ้นก็เป็นการลดการมีส่วนร่วมของอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีในต่างจังหวัด
ขณะที่รองประธานสภาอุตสาหกรรม ฝ่ายเดียวกับนายพยุงศักดิ์ มองว่าหากยอมรับเงื่อนไขอีกฝ่าย ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นไม่รู้จบ เพราะสามารถปลดประธานได้ทุกเมื่อ และขณะนี้การทำงานในสภาอุตสาหกรรมก็เป็นไปด้วยดี
นายธนิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้หารือกับตัวแทนฝ่ายนายพยุงศักดิ์ในเบื้องต้นแล้ว และน่าจะเจรจาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเตรียมชี้แจงแนวทางสร้างความปรองดอง และยุติปัญหาบ่ายวันนี้(22 เม.ย.) ขณะที่นายพยุงศักดิ์ เปิดเผยว่าทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับเงื่อนไข และไม่สามารถให้อีกฝ่ายกลับมาทำงานร่วมกันได้ เนื่องจากกรรมการและเจ้าหน้าที่ไม่ให้การยอมรับ