เจ้าของค่ายมวยมองปัญหา บัวขาว จบที่เจรจา

ปัญหาที่ซับซ้อนระหว่างสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว และ ไทยไฟท์ แม้ว่าจะดำเนินไปถึงการฟ้องร้องแล้วก็ตาม แต่คนในวงการมวยเชื่อว่าอาจจะมีทางออกอื่นเช่นการเจรจา โดยอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และ พระราชบัญญัติกีฬามวย ซึ่งต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างจริงจัง

บรรดาเจ้าของค่ายมวยรวมถึงค่ายมวย ว.สังข์ประไพ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีบัวขาว กับฝ่ายผู้จัดการแข่งขันไทยไฟต์ว่า ต้องทำความเข้าใจเหตุผลว่าการจะปั้นนักมวยไทยแต่ละคนนั้น เจ้าของค่ายต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการดูแลนักมวย ซึ่งเริ่มตั้งแต่อายุ 5-7 ขวบ ซึ่งนักมวยทุกคนก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ ช่วงเวลาที่นักมวยโตขึ้นจนมีค่าตัวระดับเงินแสนถือเป็นช่วงสำคัญที่เจ้าของค่ายจะมีรายได้เข้ามาทดแทนค่าดูแล ซึ่งไม่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จึงขอให้เห็นใจทางค่ายมวยบ้าง

แต่กรณีบัวขาว และไทยไฟท์ ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าการชกโชว์ที่ประเทศกัมพูชาเป็นการสาธิตศิลปะมวยไทย หรือเป็นการชกจริงนั้นมี 2 ประเด็นให้วิเคระาห์ คือการเป็นนักมวยไทยที่ออกไปเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยในต่างประเทศ กรณีนี้สามารถยกเว้นให้ออกไปขึ้นชกได้ ไม่สมควรห้าม แต่ทว่าการชกของบัวขาว แต่ละครั้งมักจะมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องมีการเจรจาพูดคุยทุกฝ่าย การจะหาข้อยุติได้ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิดคือการนำกฎหมาย และ พ.ร.บ.กีฬามวย เข้ามาบังคับใช้

สถาณการณ์ล่าสุดบัวขาวยังคงยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจากับฝ่ายใดทั้งสิ้น เพราะมั่นใจว่าทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่ไทยไฟท์แสดงจุดยืนที่ชัดเจนคือไม่ต้องการให้บัวขาวขึ้นเวทีในรายการ แม็กซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยน