นักวิชาการชี้แผ่นดินไหวเนปาลรอบ 2 กรุงกาฐมาณฑุเสียหายเพิ่มขึ้นร้อยละ 60
นักวิชาการด้านภัยพิบัติประเทศไทยประเมินความเสียหายแผ่นดินไหวเนปาลครั้งล่าสุดพบว่ากรุงกาฐมาณฑุได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เพราะอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว พร้อมเสนอให้รัฐบาลเนปาลเร่งสร้างอาคารที่พักต้านแรงแผ่นดินไหวชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงอาคารพังถล่มลงมาซ้ำอีก
รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ศณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมถอดบทเรียนการปรับแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล หลังจากลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในกรุงกาฐมาณฑุ และพื้นที่ห่างไกล พบว่าปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือในเวลานี้ คือรัฐบาลเนปาลยังไม่กล้ารื้อถอนอาคารที่พังถล่มลงมา เนื่องจากยังมีการค้นหาร่างผู้สูญหาย ส่งผลให้แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดขนาด 7.3 ทำให้อาคารบ้านเรือนในกรุงกาฐมาณฑุเสียหายเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เพราะจุดศูนย์กลางห่างจากกรุงกาฐมาณฑุเพียง 76 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน ยังเสนอให้รัฐบาลเนปาลเร่งดำเนินการ คือสร้างอาคารชั่วคราวต้านแรงแผ่นดินไหว เพื่อให้ผู้ประสบภัยพักอาศัยระหว่างดำเนินการฟื้นฟูเมือง เพราะแผ่นดินไหวขนาด 7.3 มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6 ได้ และหากประชาชนยังคงพักอาศัยในอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งแรก ก็มีความเสี่ยงพังถล่มลงมาซ้ำอีก
รศ.สุทธิศักดิ์ ย้ำว่าบทเรียนสำคัญที่ได้จากแผ่นดินไหวเนปาลครั้งนี้ ประเทศไทยต้องบังคับใช้กฎหมายสร้างบ้าน หรืออาคารในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มากขึ้น เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบให้ต้านแผ่นดินไหว และต้องผลักดันให้มีกองทุนภัยพิบัติเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะช่วยแบ่งเบาภาระซ่อมบ้านผู้ประสบภัยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว