นักวิชาการชี้ใช้ กม.คุมเสรีภาพในการแสดงความเห็นอาจถูกต่อต้าน

นักวิชาการเสนอว่าการใช้กฎหมายควบคุมเสรีภาพในพูด และการแสดงความคิดเห็นที่มีอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย

 นายโสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการอภิปรายสาธารณะ เรื่อง ความท้าท้ายของสื่อใหม่กับการเมืองไทยช่วงก่อน และหลังการเลือกตั้งขึ้น บอกว่า การมี free speech หรือ เสรีภาพในการพูดการแสดงความคิดเห็น เป็นสิ่งจำเป็นในระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการบังคับขู่เข็ญเพื่อให้ทุกคนเชื่อและคิดแบบเดียวกัน แต่ในปัจจุบันกลับมีคนนำเสรีภาพในการพูด การแสดงความคิดเห็น ไปทำให้เกิด hate speech หรือ คำพูดเหยียดหยามศักดิ์ศรีการเป็นมนุษย์และการขู่อาฆาต เช่นเดียวกับปัญหาที่เกิดในทุกประเทศ ที่เห็นได้จากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านสื่อต่างๆ เช่น facebook ที่อาจเข้าข่าย hate speech แต่ยังไม่ชัดเจน เพราะยังไม่มีการขู่อาฆาต ดังนั้นจึงเสนอว่าการใช้กฎหมายเข้ามาควบคุมเสรีภาพในพูด และการแสดงความคิดเห็นที่มีอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เกิดการต่อต้านจากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย และทำให้ประชาชนหันมาสนใจความคิดเห็นเหล่านั้นมากขึ้น ซึ่งอาจผิดวัตถุประสงค์ในการออกกฎหมาย เพราะความคิดเห็นที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็จะหายไปเอง
 
ด้านนายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ให้ความเห็นว่าหลักเสรีภาพในการพูดและการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ถ้ามีเจตนาสุจริตก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะในรัฐธรรมนูญได้รับรองสิทธิเสรีภาพด้านนี้ไว้ในสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ถ้าภาครัฐจะเข้ามาตรวจสอบ ก็ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส และเสนอว่าให้มีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาตรวจสอบการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาการประกาศภาวะฉุกเฉินทำให้เกิดการปิดกั้นเสรีภาพในการคิดและการพูดของประชาชน เช่น การปิดเว็บไซต์ต่างๆ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ