นายกฯ เผย รับฟังเสียงวิจารณ์ลงพื้นที่ถี่-ไม่มีผลงาน น้อมรับผลโพล ลดจุดลงพื้นที่ให้น้อยลง เพื่อรับฟังปัญหาให้นานขึ้น และในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ เตรียมตรวจราชการ จ.ชลบุรี - จ.ระยอง ติดตามการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รองรับการลงทุนชาวต่างชาติในพื้นที่ EEC
การอภิปราย "ซักถาม" ตลอด 2 วันนี้ นายกรัฐมนตรี จัดคิวรัฐมนตรีและวางประเด็นให้อภิปรายชี้แจง ทั้งวันที่ 3 และ 4 เมษายน 2567 รวม 12 ประเด็น พร้อมข้อกำชับ ห้ามทิ้งห้องประชุมสภาฯ เด็ดขาด และหลังแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ และ ไทยสร้างไทย ลุกขึ้นอภิปรายแจกแจงข้อกล่าวหา และข้อเสนอแนะตามญัตติ โดยชี้ว่า นโยบายขาดยุทธศาสตร์-พฤติการณ์เซาะกร่อนกระบวนการยุติธรรม ก็ทำให้นายกรัฐมนตรี ที่ถือคิวแรก ลุกขึ้นชี้แจงทันที
การอภิปรายทั่วไปรอบนี้ คนหนีไม่พ้นเรื่องของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และเราเริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่าใครบ้าง ที่พร้อมจะเป็นองครักษ์ยกมือขึ้นประท้วง หากมีการพาดพิงชื่ออดีตนายกฯ คนนี้ แม้จะบอกเป็นการอภิปรายการทำงานของ "รัฐบาลเศรษฐา" แต่ชื่อของ ทักษิณ นั้นไม่สามารถหนีพ้นได้จริง ๆ
ในสภาเมื่อวานยังมีฉากซักถามดุเดือดเกิดขึ้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องตอบคำถามอีกครั้ง ยืนยันการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และไม่ได้มีการมีการช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยากาศการประชุมสภาฯ วาระกระทู้ถามทั่วไป ของนายรังสิมันต์ โรม เริ่มครุกรุ่นตั้งแต่ยังไม่เริ่มถาม ด้วย สส. เพื่อไทย 2-3 คน ออกตัวประท้วงการตั้งกระทู้ห้ามพาดพิงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แล้วก็มีการประท้วงเป็นระยะ ซึ่งเป็นหการถามของ นายรังสิมันต์ โรม เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเพิ่มเติมการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ซึ่งตั้งกระทู้ถามตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยย้ำถามเรื่องมาตรฐานทางกระบวนการยุติธรรมการพักรักษาตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชั้น 14 ในโรงพยาบาลตำรวจ เหตุใดถึงรักษาที่ห้องพิเศษและถามรายชื่อแพทย์ผู้ประเมินการรักษา ซึ่งพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ยืนยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ และไม่ได้มีการช่วยเหลือนายทักษิณ ชี้จากปัญหานักโทษล้นคุกจึงต้องมีมาตรการแก้ไขและดำเนินการดำเนินการตามระเบียบคุมขังนอกเรือนจำซึ่งโรงพยาบาลเข้าเงื่อนไข ทิ้งท้ายว่าบุญคุณกับการทำกฏหมายขอเลือกทำถูกกฎหมายแม้ส่วนตัวจะรู้จักกับอดีตนายกทักษิณแต่ไม่เคยเข้าพบเนื่องจากจะต้องวางตัวให้เหมาะสม