แม่น้ำชีเข้าขั้นวิกฤต หลังภัยแล้งมหาสารคามรุนแรง

ระดับน้ำในแม่น้ำชี จังหวัดมหาสารคามลดลงต่อเนื่องจนอยู่ในขั้นวิกฤติ หลายช่วงเป็นเนินทรายโผล่ขึ้นกลางลำน้ำ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่่ได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาสออกหาปลาเพื่อนำไปประกอบอาหารและจำหน่าย

สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดมหาสารคามยังคงรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำชีอยู่ในขั้นวิกฤต หลายช่วงเป็นเนินทรายโผล่ขึ้นมาให้เห็น ชาวบ้านพลิกวิกฤตเป็นโอกาส หว่านแหหาปลากลางแม่น้ำชีเพื่อนำไปประกอบอาหารและนำไปขายสร้างรายได้

จังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศเขตพิบัติภัยแล้งแล้วทั้ง 13 อำเภอ 126 ตำบล 1,713 หมู่บ้านราษฎร 120,972 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 394,447 ไร่ ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีพื้นที่ได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ

นางพนมพร ภวภูตานนท์ ชาวบ้านที่มาหาปลาบริเวณวัดสว่างวารี ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัยกล่าวว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีไม่เคยน้อยขนาดนี้มาก่อน ซึ่งปีนี้ถือว่าภัยแล้งรุนแรงมาก จึงถือโอกาสนำแหมาหว่านหาปลากลางแม่น้ำชี ซึ่งในช่วงนี้มีระดับน้ำสูงเพียงแค่หัวเข่าเท่านั้น โดยปลาที่หามาได้ ทางภาคอีสานเรียกว่า ปลาขาวเก มีลักษณะตัวสีขาว หางออกสีเหลือง แต่ละวันจะสามารถจับได้จำนวนมาก โดยจะนำไปทำปลาแดดเดียว เพื่อเก็บไว้สำหรับบริโภค บางส่วนก็นำไปขายให้กับเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ระดับน้ำในลำน้ำชีปัจจุบัน วัดที่สถานี E91 อ.โกสุมพิสัย ระดับน้ำอยู่ที่ 139.54 ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 10.16 เมตร และที่สถานี E8A อ.เมืองมหาสารคาม ระดับน้ำอยู่ที่ 134.06 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 9.75 เมตร ซึ่งระดับน้ำถือว่าน้อยที่สุดในรอบ 20 ปี