พม่า - บังคลาเทศ อพยพประชาชนหนีพายุ 
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พายุไซโคลนมหาเสน ได้เคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งทางตอนใต้ของบังคลาเทศ ด้วยความเร็วลม 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อพายุพัดขึ้นฝั่งได้อ่อนกำลังลงเหลือ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อิทธิพลของพายุก็ทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลได้จัดศูนย์พักพิงกระจายอยู่ตามโรงแรม, โรงเรียน และสถานที่ราชการ
นอกจากนี้ ทางการยังมีคำสั่งให้เรือเฟอร์รี่ และเรือรับจ้างทั้งหมดระงับการบริการ รวมถึงโรงงานที่อยู่บริเวณอ่าวเบงกอลก็ปิดทำการด้วย กองทัพได้เตรียมเรือ 22 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 19 ลำ สำหรับการอพยพประชาชน สถานีโทรทัศน์ของบังคลาเทศ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพราะถูกต้นไม้ล้มทับ 4 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตในพม่า และศรีลังกา รวม 18 คน
ส่วนที่พม่า เจ้าหน้าที่พยายามจะย้ายผู้อพยพประมาณ 38,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา ออกจากศูนย์พักพิงซึ่งอยู่ในที่ลุ่ม เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากพายุไซโคลน "มหาเสน" แต่กลับประสบปัญหาเมื่อชาวมุสลิมโรฮิงญาไม่ยอมย้ายออก แม้จะมีบางส่วนยอมย้ายออกไปในตอนแรกเพราะถูกบังคับ แต่ก็กลับมาที่ศูนย์พักพิงอีก
บางคนบอกว่าจะขอตายอยู่ที่นี่ถ้าหากพายุพัดมาจริง สาเหตุที่ไม่ยอมย้ายเพราะสงสัยถึงเจตนาที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่พม่า เพราะชาวโรฮิงญาส่วนหนึ่งที่ย้ายมาอยู่ในศูนย์พักพิง ก็เพื่อหนีภัยความรุนแรงจากชาวพุทธในรัฐยะไข่ และเกรงว่าหากย้ายออกจากที่นี่จะไม่ได้รับการคุ้มครองที่ดีพอ
นายอ่อง มิน รัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดี ให้สัญญาว่า เมื่อพายุผ่านไปแล้ว ทางการจะยอมให้ชาวมุสลิมโรฮิงญากลับมาอยู่ที่นี่ตามเดิม
ก่อนหน้านี้ พายุลูกดังกล่าวพัดถล่มศรีลังกา ทำให้เกิดฝนตกหนัก และดินถล่ม ประชาชนกว่า 10,000 คนได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลน "มหาเสน" ศูนย์จัดการภัยพิบัติของศรีลังกาประเมินว่าอีก 2-3 วันสถานการณ์น่าจะดีขึ้น