รัสเซียส่งขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำให้ซีเรีย
พลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ วิจารณ์รัสเซียที่ส่งขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำให้รัฐบาลซีเรีย เพราะจะทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในซีเรียเลวร้ายยิ่งขึ้น ขณะที่นายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ และรัสเซียสนับสนุนความมั่นคงในซีเรีย แต่รัสเซียกลับสนับสนุนทางการทหารแก่ซีเรียซึ่งจะทำให้สถานการณ์อันตรายมากขึ้น
ส่วนโฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้รัฐบาลซีเรีย พร้อมกล่าวว่าสหรัฐฯและรัสเซียจะจัดการประชุม เจนีวา 2 ซึ่งจะหารือเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในซีเรีย ในเร็วๆนี้ หลังจากสหรัฐฯ พบหลักฐานว่า มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
ขณะที่นายกรัฐมนตรีตุรกี กล่าวระหว่างการเยือนสหรัฐฯว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ควรตัดสินใจเรื่องการประกาศเขตห้ามบินในซีเรีย ระหว่างการประชุมเจนีวา 2 อีกครั้ง
ด้านตุรกีสนับสนุนการให้รัสเซียและจีน เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่วางแผนไว้ แต่เกรงว่าไม่มีมติเป็นเอกฉันท์ในเวทีการประชุมนานาชาติ
ส่วนจำนวนผู้ลี้ภัยสงครามในซีเรียยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ ระบุว่า มีชาวซีเรียอพยพหนีภัยสงครามกลางเมืองเข้าไปอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านกว่า 1,500,000 คนแล้ว เฉพาะจอร์แดนและเลบานอน มีผู้อพยพกว่า 470,000 คน
ส่วนผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย เพิ่มขึ้นกว่า 70,000 คน นับตั้งแต่เหตุรุนแรงเริ่มปะทุในเดือนมีนาคม 2554
ขณะที่ความรุนแรงในซีเรียเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ช่างภาพสมัครเล่นบันทึกภาพที่อ้างว่า เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากอาวุธเคมีในเมืองซาราเคป โดยผู้ป่วยต้องสวมหน้ากากออกซิเจนและหายใจลำบาก แม้ไม่มีบาดแผลตามตัวก็ตาม ซึ่งเป็นหลักฐานว่า มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริง
นอกจากนี้มีภาพวิดีโอที่โพสต์ไว้ในสังคมออนไลน์ว่า เกิดเหตุปะทะกันในหลายเมือง ทั้งในกรุงดามัสกัส เมืองรัสตัน และเมืองบาร์ซีห์