คาร์บอมบ์กระทบท่องเที่ยวเกาะสมุย ผู้ประกอบการร้องรัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่น

แม้เหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีจะทำให้คนในพื้นที่ทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวหวาดหวั่นไม่น้อย แต่พวกเขาก็ยืนยันที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ตามที่ได้เตรียมงานไว้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งคลี่คลายคดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยเปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในแต่ละปีจะมีเงินสะพัดในทุกธุรกิจของคนบนเกาะสมุยรวมกันไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท แต่หลังจากเกิดเหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนวานนี้ (10 เม.ย.2558) คาดว่าเม็ดเงินที่จะได้จากการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะลดลงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 100 ล้านบาท เห็นได้จากมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งได้ยกเลิกการเดินทางที่จองไว้และบางส่วนเดินทางกลับก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 5 เปอร์เซนต์

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ในขณะที่สมาคมฯ เองก็ยืนยันจะจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ทุกกิจกรรมตามที่เตรียมการไว้แล้วก่อนหน้านี้

ผู้ประกอบการรถแท็กซี่และรถสองแถวบนเกาะสมุยให้ข้อมูลเช่นกันว่า หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์มีนักท่องเที่ยวใช้บริการรถสาธารณะน้อยลงอย่างมาก ในบางจุดจากที่เคยมีรถสองแถวมาจอดรอรับส่งประมาณ 10 คน วันนี้ (11 เม.ย.2558) เหลืออยู่เพียง 2 คัน เช่นเดียวกับร้านขายของชำที่ไม่ค่อยมีลูกค้าเช่นกัน

นายกนกพล สมทรง ผู้ประกอบการรถแท็กซี่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลกล่าวว่า ปกติเขาจะมีรายได้จากการรับส่งนักท่องเที่ยวประมาณวันละ 1,000 บาท แต่วันนี้เขายังไม่มีผู้โดยสารเลย

"เราได้รับผลกระทบมาก ทั้งคนขับรถแท็กซี่และคนขับรถสองแถวขาดรายได้เหมือนกันหมด ฝรั่งไม่ออกมาเที่ยวเลย ปกติวันนี้ต้องคนเต็มแล้ว เพราะเริ่มมีงานสงกรานต์ แต่วันนี้เงียบเลย" นายกนกพลกล่าว

นายชาตรี เชื้อเจ็ดตน เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่าคนในพื้นที่ตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ร้านค้าก็ได้รับผลกระทบเพราะไม่ค่อยมีลูกค้า

ด้านนักท่องเที่ยวบางส่วนมีการปรับแผนการเดินทางและระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยหลีกเลี่ยงไม่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหรือชุมชน

เบญญาดา ชลวานิช นักท่องเที่ยวบนเกาะสมุยกล่าวว่าไม่คิดจะกลับก่อนเพราะตั้งใจมาเที่ยวแล้วก็จะอยู่ให้ครบ 5 วัน แต่จะพยายามหลีกเลี่ยงจุดที่เป็นแหล่งชุมชน เพื่อความปลอดภัย เพราะกลัวจะเกิดเหตุคาร์บอมบ์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองที่ลงพื้นที่เกาะสมุยในวันนี้เห็นตรงกันว่าต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคนที่เข้าออกเกาะสมุย สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว และเร่งสืบหาผู้ก่อเหตุ

พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่าการสืบสวนต้องเป็นไปตามกระบวนการ ทั้งการหาหลักฐานทางวัตถุและพยาน โดยย้ำว่าจะต้องไม่เป็นการตีความหรือคาดการณ์ที่จะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจ.ยะลา ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเป็นชุดแรกวันนี้ ได้หลักฐานที่น่าจะระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุได้

ด้านบ.เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ประชาสัมพันธ์ว่าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย จะเปิดให้บริการตามปกติในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) หลังจากที่ปิดบริการ 1 วันในวันนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่โยธาธิการจะเข้าตรวจสอบอาคารว่ามีความแข็งแรงปลอดภัย

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจสภาพภายนอก เชื่อว่าจะสามารถเปิดพื้นที่ให้บริการได้เกือบทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 12  เม.ย.เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะพื้นที่ด้านหน้าห้างฯ เป็นพื้นที่จัดงาน

ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า จากการประชุมกับคณะทำงาน นำโดยท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง และ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงต่างๆ ที่มีคนจำนวนมาก มีนักท่องเที่ยว หรือมีการจัดงานเป็นพิเศษ ในส่วนการรักษาความปลอดภัย ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุมเต็มที่ โดยมีอุปกรณ์ตรวจวัตถุระเบิด กล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพทะเบียนรถและใบหน้าผู้ขับขี่ ติดตั้งทุกจุดเข้าออก