เตรียมตรวจสอบการเก็บอากรรังนก จ.พัทลุง

คำตัดสินของศาลปกครองจังหวัดสงขลาที่ให้ยกเลิกสัมปทานรังนกบนเกาะสี่ เกาะห้า อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ทำให้ผู้ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการให้สัมปทาน เตรียมเรียกร้องให้คณะกรรมการจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น ที่ลงนามเห็นชอบการให้สัมปทานดังกล่าว ออกมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางจังหวัด

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อดีต ส.ส.จังหวัดพัทลุง ที่เคยเคลื่อนไหวคัดค้านการเปิดสัมปทานรังนก เตรียมขอบันทึกวาระการประชุม เพื่อทราบรายชื่อกรรมการทั้งหมดและเรียกร้องให้บุคคลเหล่านั้น แสดงความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากศาลปกครองจังหวัดสงขลา ตัดสินให้คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จังหวัดพัทลุง และนายวิญญู ทองสกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานมีความผิด ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมมีคำสั่งให้สัญญาสัมปทานรังนก บนเกาะสี่ เกาะห้า ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง วันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เป็นโมฆะ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา

สำหรับปัญหาจัดเก็บผลประโยชน์รังนกอีแอ่นบนเกาะสี่ เกาะห้า ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี โดย ส.ส.ทั้ง 3 คนของจังหวัด ยื่นคำร้องให้ศาลปกครองจังหวัดสงขลา มีคำสั่งให้คณะกรรมจัดเก็บอากรรังนักอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เลื่อนเปิดประมูล โดยระบุว่าหลักเกณฑ์จัดเก็บอากรไม่เป็นธรรม เอื้อประโยชน์ให้นักธุรกิจ และการเมืองบางกลุ่ม หลังบริษัทเคโคซี อิมพอร์ทเอ็กซ์พอร์ท จำกัด ได้รับสัมปทานจัดเก็บรังนกในวงเงิน 709 ล้านบาท เป็นเวลา 7 ปี จากเดิม 5 ปี ซึ่งส่งผลให้ทางจังหวัดเสียประโยชน์

คดีนี้ศาลปกครอง เห็นว่าคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีส่วนฮั้วประมูลการสัมปทาน ที่กำหนดวงเงินประกันซองประมูลงานไว้สูงถึงร้อยละ 75 และเงินประกันสัญญาร้อยละ 75 แตกต่างจากสัมปทานรังนก จุดอื่น ที่กำหนดวงเงินประกันซองร้อยละ 25 และขยายเวลาสัมปทานจาก 5 ปี เป็น 7 ปี เสมือนเป็นการปิดกั้นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก