ตำรวจพบเงินของกลางคดี “เอกยุทธ” เพิ่มอีก 2.9 ล้านบาท
ตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจภาค 9 เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 300/12 หมู่ 8 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หลังได้รับแจ้งจากนายสมนึก บัวพัว พี่ภรรยาของ จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง บิดาของนายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถนายเอกยุทธ ว่าบิดาของนายสันติภาพ ได้นำเงินมาฝากไว้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเงินของนายเอกยุทธ ที่ถูกฆ่าชิงทรัพย์ จากการตรวจค้นพบท่อพีวีซีฝังไว้ใต้ดิน จึงได้ยึด และนำไปตรวจสอบ พบเงินจำนวน 2.9 ล้านบาทอยู่ภายใน
นายสมนึกให้การว่า หลังจากได้รับฝากเงินก็ไม่สบายใจ เพราะเป็นเงินจำนวนมาก และบ้านก็ไม่ได้มิดชิดนัก จึงตัดสินใจฝังดินเอาไว้ แต่เมื่อเห็นข่าวเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิด จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ จากนั้นตำรวจได้นำนายสมนึก และผู้เกี่ยวข้อง ไปสมทบกับผู้ต้องหาคดีฆ่านายเอกยุทธทั้งหมด ที่สนามบินหาดใหญ่ และนำขึ้นเครื่องบินตำรวจ นำกลับเข้ามาสวบสวนต่อที่กรุงเทพมหานครทันที
เมื่อถึงกรุงเทพมหานคร ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้งหมด ไปควบคุมตัวที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ก่อนจะนำไปชี้จุดเกิดเหตุทั้งหมดในวันที่ 13 มิถุนายน โดยเงินที่ติดตามยึดได้ครั้งนี้ เมื่อรวมกับที่ยึดได้จากจังหวัดพัทลุง อีกจำนวนหนึ่ง รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาทแล้ว
ด้านตำรวจพบศพ เอกยุทธ อัญชันบุตร ก่อนหน้านี้การสืบสวนคดี โดยเฉพาะการติดตามหาศพของนายเอกยุทธนั้น เมื่อช่วงเช้ากองพิสูจน์หลักฐาน จากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ขุดหาศพภายในไร่นาสวนผสมแห่งหนึ่ง ในตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
ตามคำให้การของนายสันติภาพ เพ็งด้วง นายเชาวลิต อุ่นชุม และนายทิวากร เกื้อทอง ผู้ต้องหาในคดีฆ่านายเอกยุทธ จนกระทั่งพบศพชายวัยกลางคน ในลักษณะเปลือยกาย ซึ่งต่อมาได้รับการยืนยันจากญาติว่า ศพที่พบคือนายเอกยุทธ เนื่องจากจำรูปพรรณสัณฐานได้
จากการชันสูตรศพเบื้องต้น นพ.สมบูรณ์ ครุปกรณ์พงษ์ แพทย์โรงพยาบาลพัทลุง บอกว่า ไม่พบร่องรอยการบีบรัดที่ลำคอของศพ ตามคำสารภาพของ นายสันติภาพ ที่ระบุว่า สังหารนายเอกยุทธด้วยการบีบคอจนเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุของผู้ต้องหา เกิดจากต้องการทรัพย์สินของผู้ตาย ไม่ใช่ประเด็นขัดแย้งทางการเมือง ตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน