รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมสรุปตัวเลขขาดทุนรับจำนำข้าวให้ กขช.พิจารณาจันทร์นี้ก่อนรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยอมรับโครงการรับจำนำข้าวขาดทุนโดยมีตัวเลขขาดทุนที่ต่างกันระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯและกระทรวงพาณิชย์ จากการตีมูลค่าสินค้าคงเหลือต่างกัน โดยคณะอนุกรรมการปิดบัญชีใช้ราคาต่ำสุด ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ใช้ราคาต้นทุน ยืนยันรัฐขาดทุนต่อปีไม่ถึง 2 แสน 6 หมื่นล้าน
ภายหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเพื่อสรุปขาดทุน โครงการรับจำนำข้าว/นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวมีผลขาดทุน จากการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิต คือนาปี 2554/2555 นาปรัง 2554/2555 และนาปี 2555/256 โดยตัวเลขขาดทุนมีความแตกต่างกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯเนื่องจากการตีมูลค่าสินค้าคงเหลือหรือข้าวในสต็อกใช้วิธีที่แตกต่างกัน
หากประมวลข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะขาดทุนไม่ถึง 2 แสน 6 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือขาดทุนสูงสุดประมาณ 136,000 ล้านบาทตามรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ระบุขาดทุนกว่า 34,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะนำเสนอตัวเลขขาดทุนจากทั้งสองฝ่ายให้ กขช.และคณะรัฐมนตรีพิจารณาสัปดาห์หน้าว่าจะใช้ตัวเลขใดอ้างอิง ผลขาดทุนให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ส่วนจะมีการทบทวนหรือปรับหลักเกณฑ์การจำนำข้าวหรือไม่ต้องรอ กขช.เป็นผู้พิจารณา
เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขขาดทุนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติหรือ กขช.วานนี้เทียบกับตัวเลขของนายวราเทพ ยังแตกต่างกัน เช่นการรับจำข้าวนาปี 2554/2555 ระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/2555 ขาดทุนกว่า 42,900 ล้านบาท ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขาดทุนที่กว่า 18,000 ล้านบาท แต่ข้อมูลของนายวราเทพระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ขาดทุน 31,000 ล้านบาท และคณะอนุขาดทุนกว่า 42,000 ล้านบาท
โครงการรับจำนำข้าวนาปรัง 2554/2555 มีข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการกว่า 14 ล้านตัน วงเงินที่ใช้ 218,000 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขขาดทุน 18,000 ล้านบาท แต่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีระบุขาดทุน 93,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนาปี 2555/2556 ยังไม่ได้สรุปตัวเลขผลขาดทุน ข้อมูลของคณะอนุปิดบัญชี ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 รายงานว่า มีข้าวเข้าร่วมโครงการ 9 ล้าน 9 แสนตัน เงินที่ใช้ 155,000 ล้านบาท