วันนี้ (22 พ.ย.2567) เวลา 11.30 น. การประชุมกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 55 เรื่องการพิจารณาระบบความยุติธรรม กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่อาคารรัฐสภา เริ่มต้นขึ้น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ ว่า ในช่วงที่ตนเข้าสู่คณะรัฐมนตรี และเดินเข้ากระทรวงเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2567 กรณีของนายทักษิณ ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนที่ตนจะเป็นคณะรัฐมนตรี และนายทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2567 เอกสารของกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 พบว่า
มีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวว่า นายทักษิณจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งกรมราชทัณฑ์ หากไม่มีหมายอาญาหรือหมายของศาล จะเข้ากรมราชทัณฑ์ไม่ได้ กรมราชทัณฑ์จึงได้แต่งตั้งคณะขึ้นมาคณะหนึ่ง
ขณะนั้นมองได้ว่า พรรคอนาคตใหม่ จะเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ เพราะยังไม่ได้มีการฟอร์มว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะการเลือกนายกฯ เกิดขึ้นในที่ 22 ส.ค. และตนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จึงต้องให้ความเป็นธรรม
พ.ต.อ.ทวีกล่าวต่อว่า เหตุที่ตนต้องมาชี้แจง เหมือนกรรมาธิการชุดนี้ ไปด้อยค่ากรมราชทัณฑ์ ไม่ให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง และเลือกถ้อยคำบางประเด็น ตนยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งมีการแบ่งเกรดของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตามการใช้ศักยภาพ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยที่ต้องรักษา ซึ่งมีการระบุชัดว่า โรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นสถานที่คุมขัง ซึ่งหากประชาชน รับไม่ได้ก็ต้องไปแก้ที่กฎหมาย
จากนั้น คณะกรรมาธิการฝั่งพรรคประชาชน ได้สอบถามถึงการส่งตัวผู้ถูกคุมขังไปยังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ควบคุม 2 คน ตามกฎระเบียบไว้หรือไม่ รวมไปถึงมีการจัดห้องแยกให้กับผู้ต้องขังหรือไม่ เนื่องจากกฎกระทรวงนั้น ถือเป็นข้อห้าม และมีการจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมหรือไม่
ภายหลังจากที่มีการซักถามเสร็จสิ้น พ.ต.อ.ทวี ได้บอกประธานกรรมาธิการว่า ให้ระวังเอกสารลับ เรื่องของการรักษาตัว เนื่องจากมีสื่อมวลชนกำลังบันทึกภาพอยู่ และถามย้ำกับช่างภาพว่า ถ่ายภาพติดหรือไม่ เนื่องจากกังวลเรื่องสิทธิ
ก่อนที่จะชี้แจงต่อว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้จัดบุคคลไปควบคุม ยืนยันว่า ไม่ใช่ห้องพิเศษ และนายทักษิณ เคยถูกปองร้ายเคยโดนคาร์บอมบ์ ตนเห็น สส.100 คน มีบทบาทอย่างนี้ได้อย่างไร
เมื่อเรียกร้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การดำเนินการใช้ห้องควบคุมพิเศษ ก็เป็นดุลยพินิจของผบ.ตร. โรงพยาบาลตำรวจ และการเข้าเยี่ยม ก็มีรายการการเข้าเยี่ยมทั้งหมด การเอาสิ่งเหล่านี้ที่ท่านพูด ทำร้ายกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม มีคนนำคำพูดไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีการสอบอย่างละเอียด พร้อมยืนยันว่า กรรมาธิการไม่ใช่การสอบสวนในทางการเมือง เราต้องไปข้างหน้า อย่ามาด้อยค่ากัน แต่ตนมีหลักฐานยืนยันตามระเบียบทั้งหมด
พร้อมอธิบายห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ถูกมองว่า ไม่ได้อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่น ว่าการพักรักษาตัวของผู้ต้องขัง เดี๋ยวนี้ไม่ได้เอาไปอยู่รวมกัน สามารถดูได้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ และยืนยันว่า ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลยพินิจ ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่างตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2566
และเจ้าหน้าที่คุมขัง ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการอยู่ราชทัณฑ์ ต้องมีการเข้าออกตามเวลา เท่าที่รู้ กรรมการผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็เข้าไปดูว่าท่านป่วยจริงไม่ เช่นนั้นรายงานจะออกมาว่า เรื่องนั้นเรื่องนี้ยุติ พอเรื่องนั้นเรื่องนี้เกิดเหตุก็ไปตีข่าวกันมาก ข้าราชการทำงานกันอยู่ เราไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เราทำตามกฎหมายและระเบียบที่ให้ไว้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจในเรื่องการตรวจสอบ ที่มีความลำบากใจในหลายอย่าง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนตั้งคำถาม หากรัฐมนตรีและราชทัณฑ์ให้ข้อมูลครบถ้วนก็จะสิ้นสงสัย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การใช้ดุลยพินิจ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ตนยืนยันว่า คนที่เข้าเรือนจำต้องควบคุม ห้องที่นายทักษิณไปอยู่คือห้องควบคุมพิเศษ ในความหมายของตน ส่วนป้ายที่เขียนว่า ตึกนี้ชั้นนี้ เป็นพรีเมียม ตนไม่ทราบ เพราะเป็นที่รักษาคนทั่วไป ญาติพี่น้องตำรวจคนเดียวใครก็ได้เข้าไปรักษา
คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน คนทั่วไปก็อยู่ได้ อย่างนางอองซาน ซูจี ยังถูกกักขังที่บ้าน ประเด็นตรงนี้เราต้องควบคุม ในลักษณะที่ยังต้องราชทัณฑ์อยู่ เพื่อไม่ให้เกิดการหลบหนี ไปก่อเหตุร้าย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่ไปเยี่ยม ตนขออย่าตำหนิกรมราชทัณฑ์ ว่าเปิดให้เยี่ยมน้อย ซึ่งจริง ๆ แล้วใครก็ได้ ที่ต้องการจะเยี่ยมเพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่กรมราชทัณฑ์ก็กำหนดเอาไว้ และผู้ที่เข้าไปเยี่ยมทั้งหมด ทั้งคนที่อ้างว่า ไปเข้าพบ ขอตรวจสอบได้ เพราะเรายืนยันว่า มีรายชื่อทั้งหมด ส่วนจะไปทางหนีไฟหรือไม่ ตนก็ไม่รู้ ไม่ยืนยัน ข้าราชการรักษาศักดิ์ศรี และไม่ทำอะไรที่จะต้องมาโดนเช่นนี้ หากจะดูรายชื่อก็สามารถดูได้ แต่ตนขอยืนยันว่า ห้องนี้เป็นห้องควบคุมพิเศษและห้องรักษา และตนก็ไม่เคยเดินทางไปพบนายทักษิณ ขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ท่านทวีช่วยตอบหน่อยได้หรือไม่ว่า คณะกรรมการที่ช่วยนายทักษิณเป็นการใช้อำนาจโดยชอบหรือไม่
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า เข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุทั้งหมด และเหลือโทษไม่มาก การให้คะแนนจึงเป็น 9 คะแนน ซึ่งหมอวินิจฉัยโรคดีกว่าตนวินิจฉัย เป็นผู้วินิจฉัยว่า เข้าหลักเกณฑ์ทั้งหมด มีโรคหลายโรคและไม่มีผู้อื่นเห็นแย้ง
ผู้แทนอัยการสูงสุด กล่าวว่า การพิจารณาเข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ และการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นการจำคุกถือเป็นส่วนหนึ่งของเรือนจำ และมีผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพราะฉะนั้นตนคิดว่าหากจะให้ตนวินิจฉัยโรคตนชอบให้หมอวินิจฉัยมากกว่าเพราะถ้าเป็นตนเป็นคนให้ยาท่านประธานคงไม่เอาเหมือนกัน จึงขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่เอกสารส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายรังสิมันต์ จึงถามต่อว่า เข้าใจว่า พ.ต.อ.ทวีไม่ใช่หมอ แต่ผลที่ออกมาเหมือนจะเป็นไปตามนั้น เหมือนดูนายทักษิณสุขภาพดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ได้มีการตรวจสอบ ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านหรือไม่ ว่าเป็นการใช้อำนาจมิชอบ
พ.ต.อ.ทวีชี้แจงว่า ได้ให้รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปตรวจสอบ และทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้ตรวจสอบกรณีนี้ แล้วไม่มีอะไรผิดกฎหมาย และยุตติเรื่องไปแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่า การพิจารณาการพักโทษของแต่ละคน จะพิจารณากันหนักมาก
ทำให้นายประยุทธ์ ศิริพานิช ขอใช้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นว่า คำถามบางคำถามและการชี้แจงไม่ใช่หน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี อย่างเช่น ที่จะไปชั้น14 ส่วนกรณีชั้นสี่คุณอยากไปหรือใครอยากไปมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี บางอย่างไม่ใช่ท่านจะสั่งการได้ เพราะจะมีกระบวนการในการเสนอมา
“ถ้าหากใครยังมีความสงสัยอยู่ ผมขอแนะนำง่ายๆ ถ้าอยากจะใช้บริการของท่านรัฐมนตรีก็ลองไปเป็นนักโทษดู ท่านจะรู้ว่าท่านทักษิณได้ใช้บริการนี้ คุณจะได้ใช้บริการเดียวกันหรือไม่ พูดกันตรง ๆ ในฐานะที่ชีวิตเคยผ่านคุกผ่านตารางมาก่อน” นายประยุทธ์กล่าว
ประเด็นที่จะให้ตนขึ้นไปที่โรงพยาบาลตำรวจก็ได้ เพราะตนมาที่นี่ มีคนห้ามว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนก็ยังมา เพราะอยากทำความจริงให้ปรากฏ
ส่วนเรื่องการรักษา พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายแพทย์ใหญ่ เขาแจงว่าเอกสารที่ส่งให้ ป.ป.ช.เหลือเพียงแค่ตัวเวชทะเบียน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ตามมาตรา 7
ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาล ส่งให้ ป.ป.ช.ไปแล้ว เพราะว่า จะมีทั้งราคา รายละเอียดการรักษา มีรายงานว่า วันไหน ผ่าตัด วันไหนทำ MRI ซึ่งมันเหนือกว่าเวชระเบียนอยู่แล้ว ส่วนสิทธิ์ของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะออกเงินเองก็ได้ เพราะโรงพยาบาลตำรวจจับมือกับ สป.สช. ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ค่ายาหลักสูง แต่ผู้ป่วยเป็นผู้ออกเอง และไม่มีกฎหมายเขียนห้ามไว้
ด้าน พ.ต.อ.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล เลขานุการประจำคณะ กมธ. ให้ข้อมูลว่า วิวห้องที่นายทักษิณ พักรักษาตัวเป็นวิว sport club เป็นห้องสูท ถ้าดูตามราคาที่ปรากฏทั่วไป คืนละประมาณ 8,500 บาท คูณ 120 วัน ก็ประมาณล้านกว่าบาท ในฐานะที่เป็นตำรวจและเคยใช้บริการจึงได้ส่วนลด แล้วนายทักษิณได้ส่วนลดด้วยหรือไม่ ตนถามไว้เผื่อคนอื่น ในอนาคตผู้ต้องหาคนอื่น อยากทำจะสามารถทำได้หรือไม่
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คนทั่วไปก็อยู่ห้องนั้นได้ ส่วนการรักษาพยาบาล นายทักษิณ ไม่ขอใช้สิทธิ์เป็นการจ่ายเงินเอง ถ้าไม่พอใจว่า ท่านจ่ายเงิน ตนก็ไม่รู้แล้ว และราคาห้องอาจจะมากกว่าที่ท่านว่า เพราะอย่าลืมว่า มีค่าหมอค่ายาอีก และการที่นายทักษิณ อยู่ในห้องโรงพยาบาลตำรวจ ก็เหมือนอยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ออกไปไหน และการที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เพียงพอ
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า มันมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ครั้งที่แล้วกรมราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลกับเราว่า พยาบาล 2 ท่านเป็นผู้วินิจฉัย ส่งตัวนานทักษิณชินวัตร ไปที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่รัฐมนตรีพึ่งบอกเราว่ามีคุณหมอเป็นผู้วินิจฉัย
ทำให้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวชี้แจงว่า คุณหมอมาตรวจตอน 11.00 น แล้วรู้ว่าท่านเป็นโรคเยอะเลย แล้วทีนี้พอกลางคืน พยาบาลเขาก็ส่งตัวตามตามคำแนะนำของแพทย์ในตอนเช้า และ
ตามกฎหมายเขาเขียนให้พยาบาลเป็นผู้ส่งตัว ไม่ได้ให้หมอเป็นผู้ส่งตัว มันไม่มีอะไรที่จะผิดกฎหมาย
อ่านข่าว : "ภูสอยดาว" แจงปมน้ำตกสายทิพย์มีกลิ่น ปัดปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำ
เปิดชื่อตุลาการศาล รธน.เสียงข้างมากไม่รับคำร้อง "ทักษิณ" ล้มล้างการปกครอง
มติศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องปม "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง