แอมเนสตี้ฯ เรียกร้องรัฐบาลลาว นำ
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยในรายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ว่ารัฐบาลลาวต้องดำเนินการทันทีเพื่อประกันว่าสมบัด สมพอน ผู้นำภาคประชาสังคมของลาวกลับมาอย่างปลอดภัย มีความเป็นไปได้ว่าเขาตกเป็นเหยื่อของการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยเจ้าหน้าที่
รายงาน Caught on Camera ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกรณีของสมบัดซึ่งถูกลักพาตัวไประหว่างอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ในตอนค่ำของวันที่ 15 ธันวาคม 2555 หรือหกเดือนที่แล้ว และไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีกเลย
โดยนาย รูเพิร์ต แอบบ็อต (Rupert Abbott) นักวิจัยประเทศกัมพูชา ลาวและเวียดนาม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ เป็นไปได้มากว่าสมบัด สมพอนเป็นเหยื่อของการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยเจ้าหน้าที่ลาวเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบ รัฐบาลลาวต้องประกาศอย่างเป็นทางการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเขาโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้เขากลับสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย ทั้งยังต้องแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่เพื่อสอบสวนกรณีนี้ เพื่อประกันให้สมบัดกลับมาอย่างปลอดภัย และเพื่อนำตัวผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการบังคับบุคคลให้สูญหายครั้งนี้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนอย่างเป็นธรรม
นายแอบบ็อต กล่าวอีกว่า ตามกฎหมายระหว่างประเทศ การบังคับบุคคลให้สูญหายหมายถึงการจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลโดยเจ้าพนักงานของรัฐหรือตัวแทน และยังมีการปฏิเสธไม่ยอมบอกข้อมูลว่าบุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด หรือไม่ยอมเปิดเผยชะตากรรมหรือสถานที่อยู่ของบุคคลดังกล่าว กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะที่เกิดการหายตัวไปของสมบัดได้ ในภาพวีดิโอปรากฏตัวสมบัดที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงป้อมยามในกรุงเวียงจันทน์ นครหลวงของลาวเรียกให้จอด เขาออกจากรถเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นมีคนมาขับรถของเขาไป จากนั้นชายสามคนรวมทั้งสมบัดเดินเข้าไปนั่งในรถกระบะที่ติดไฟวาบ และขับออกไปตามหลังมอเตอร์ไซค์ซึ่งคนขี่มอเตอร์ไซค์ทำท่าทางเหมือนยิงปืนขึ้นไปบนฟ้า เหตุที่สมบัดถูกนำตัวไประหว่างอยู่ที่ป้อมยามตำรวจใจกลางเมืองหลวงของลาว และการที่ตำรวจมิได้กระทำการใด ๆ เพื่อขัดขืน ทำให้เกิดข้อกังวลอย่างมากและการที่ตำรวจลาวชี้นำว่า สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่อง “ปกติ” เป็นเรื่องเหลวไหลมาก เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงดังกล่าว และดูเหมือนว่าจะมีการยิงปืนในที่เกิดเหตุด้วย ทางการลาวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสมบัดแล้ว สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อที่ผ่านมาตำรวจไม่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ทำให้คนคิดว่าเป็นการพยายามกลบเกลื่อนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางการลาวยังปฏิเสธความช่วยเหลือจากองค์กรอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาช่วยวิเคราะห์ภาพวีดิโอจากกล้องวงจรปิด
“รัฐบาลลาวต้องดำเนินการโดยทันทีเพื่อประกันให้สมบัด สมพอนกลับสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย ไม่เช่นนั้นแล้ว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการหายตัวไปของเขาก็จะยังดังต่อไป” แอบบ็อตกล่าวและว่า ก่อนการหายตัวไปของเขา สมบัดได้ทำการสำรวจระดับชาติเพื่อวัดระดับความสุขของคนในลาวทั้งประเทศ และยังมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมภาคประชาสังคมครั้งใหญ่สุดของประเทศ กล่าวคือการจัดประชุมเวทีเอเชีย-ยุโรปภาคประชาชน (Asia-Europe People’s Forum - AEPF) ในเดือนตุลาคม 2555 ผู้เข้าร่วมเวที AEPF ได้ถูกคุกคาม และเจ้าหน้าที่ได้เข้ามายึดเอกสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่ผลสำรวจของโครงการ “ภาพฝันของคนลาว” ซึ่งเป็นโครงการของสมบัด ไม่นานหลังจากนั้น ในวันที่ 7 ธันวาคม 2555 รัฐบาลลาวได้สั่งเนรเทศเจ้าหน้าที่งานพัฒนาระหว่างประเทศคนหนึ่ง หลังจากที่เธอได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าพื้นที่ถกเถียงในประเทศลาวมีอย่างจำกัด และผู้ที่กล้าแสดงความเห็นก็มักจะได้รับผลกระทบ
นายแอบบ็อตกล่าวว่า การบังคับบุคคลให้สูญหายกรณีสมบัดดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการต่อเนื่อง ที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อควบคุมภาคประชาสังคมและเสรีภาพในการแสดงออกในลาว ประชาคมระหว่างประเทศควรดำเนินการใด ๆ ที่เป็นไปได้เพื่อเรียกร้องให้ทางการลาวนำตัวสมบัด สมพอนกลับคืนมา และให้มีการเคารพต่อสิทธิในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมอย่างสงบ