ทนายยื่น
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อยื่นหนังสือขอให้สืบสวน 13 ประเด็นสงสัยในคดี เช่น มูลเหตุจูงใจการฆาตกรรมครั้งนี้ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์ เหตุใดจึงนำทรัพย์สินไปทิ้ง การพาตัวนายเอกยุทธออกจากกรุงเทพฯ มีผู้ต้องหาแค่ 2 คน จริงหรือไม่ และทำไมนายเอกยุทธไม่ต่อสู้ขัดขืนหรือหลบหนี การตามหาฮาร์ดดิกส์กล้องวงจรปิดที่หายไป และให้ผู้เชี่ยวชาญกู้คืนข้อมูล คำให้การของผู้ต้องหายังมีความขัดแย้ง เช่น มีการแวะพักที่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องตรวจสอบว่าเป็นบ้านของใคร และแวะทำอะไร
รวมถึงการหาหลักฐานกล้องวงจรปิดในจุดที่นายเอกยุทธถูกฆ่าตาย และตามหาพยาน รวมถึงคนขับรถสิบล้อที่นายเอกยุทธวิ่งไปขอความช่วยเหลือ พร้อมขอให้ตำรวจตรวจสอบรถตู้ของกลางอีกครั้ง เพื่อหาลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอของบุคคลอื่น รวมถึงหาเสื้อผ้านายเอกยุทธเพราะอาจมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีเลือดของผู้ร่วมกระทำผิดติดอยู่และสามารถนำมาตรวจดีเอ็นเอได้ หาบุคคลที่ผู้ต้องหาอ้างว่า คุยโทรศัพท์ด้วย คือ นายเปี๊ยก ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารครัวกระแต และบอกว่ามาพบและนำโทรศัพท์ไป
โดยนายสุวัตร ยืนยันว่า ครอบครัวนายเอกยุทธยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงขอให้ตำรวจเร่งหาความจริง เพื่อตอบข้อสงสัยทุกประเด็นให้ชัดเจน และหากจำเป็น ญาติอาจจะยังเก็บศพนายเอกยุทธไว้ และจะยังไม่ทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 29 มิถุนายนนี้
ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ตั้งประเด็นข้อสงสัยไว้แล้ว แต่บางส่วนยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ และเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจังหวัด ทำให้ใช้เวลารวบรวมข้อมูล ซึ่งจะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เชื่อว่าจะสามารถตอบข้อสงสัยได้ภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนแผนประทุษกรรมนั้นตำรวจมองว่า ไม่ได้มีความซับซ้อนตามที่ญาติตั้งข้อสังเกต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนี้ประสานงานกับบริษัทที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อกู้ข้อมูลภาพ แต่ไม่ยืนยันว่าจะสามารถกู้ภาพได้หรือไม่
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมนำเครื่องสแกนโลหะไปตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ที่บริเวณจุดกลับรถข้ามคลองลำมะขาม ย่านฉลองกรุง ซึ่งเป็นจุดที่นายเอกยุทธพยายามหนีด้วยการกระโดดลงจากรถตู้