ชาวเชียงราย ลุ้นศาลเพิกถอนใบอนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล
กลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายจำนวนกว่า 500 คน พร้อมเดินทางไปศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อฟังการพิจารณาคดีครั้งแรก ตามที่ศาลได้มีหมายแจ้ง ลุ้น! ตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีหมายแจ้งมายังผู้ฟ้องคดีกำหนดให้วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.00 นาฬิกา เป็นวันนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ 146/2554 ระหว่างนายบุญซ่น วงค์คำลือ ที่ 1 กับพวกรวม 100 คน ผู้ฟ้องคดี กับ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่ 1 บริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ที่ 2 ผู้ถูกฟ้องคดี ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 1
คดีนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ชาวบ้านในนามกลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจำนวน 100 คน พร้อมด้วยผู้สนับสนุนการฟ้องคดีกว่า 1,500 คน ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ออกให้กับบริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้ขออนุญาตโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยมีแกลบเป็นเชื้อเพลิงในพื้นที่ บ้านไตรแก้ว หมู่ที่ 8 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงรายในช่วงปี พ.ศ. 2552 แต่ชาวบ้านเห็นว่ากระบวนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวลไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่อง เช่น ไม่มีการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่งครบถ้วนรอบด้าน สถานที่ก่อสร้างโครงการมีการถมดินทับพื้นที่สาธารณะ(ลำเหมือง) ขัดกับมติคณะกรรมการกลั่นกรองการขอรับใบอนุญาตฯ ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีมติว่าไม่สมควรให้มีการก่อสร้างโรงงานฯในพื้นที่ และตั้งอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งถือว่าเป็นทำเลและที่ตั้งไม่เหมาะสมตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 ตามพรบ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ชาวบ้านจึงได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว
พร้อมกันนี้ได้ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งต่อมาศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทื่ 2 ดำเนินการก่อส้รางโรงงานฯไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองอุทธรณ์คดีและต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้ามีผลเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นคือห้ามการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมสลไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยให้เหตุผลว่าเหตุแห่งการฟ้องคดีน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากให้มีการสร้างโรงงานฯจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมอันยากต่อการเยียวยาในภายหลัง และการมีคำสั่งดังกล่าวไม่เป็นต่ออุปสรรคต่อการบริหารราชการของภาครัฐ
หลังจากที่ศาลใช้เวลาในการแสวงหาข้อเท็จจริงเป็นเวลา 2 ปีกว่า ในที่สุดศาลปกครองเชียงใหม่ได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีนี้จนเสร็จสิ้นเพียงพอที่ศาลจะพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งได้แล้ว จึงมีหมายแจ้งมายังผู้ฟ้องคดีทั้ง 100 คนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 โดยกำหนดวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556 พร้อมทั้งได้ส่งสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสำนวนมาให้ผู้ฟ้องคดี ซึ่งในวันดังกล่าวศาลให้สิทธิคู่กรณีสามารถยื่นคำแถลงต่อศาลและแสดงพยานหลักฐานได้ โดยในคำส่งดังกล่าวยังกำหนดให้วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เป็นวันพิพากษาคดีต่อไป
กลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจังหวัดเชียงรายแจ้งว่าเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ชาวบ้านในสามตำบลสามอำเภอของจังหวัดเชียงรายที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลได้ร่วมเป็นผู้ฟ้องคดี คดีนี้จึงเป็นคดีที่เป็นประโยชน์สาธารณะและเป็นประโยชน์ร่วมกันของชาวบ้านอย่างแท้จริง ในวันที่ 19 มิ.ย. 2556 นี้จึงมีคนที่จะร่วมเดินทางไปฟังการพิจารณาคดีครั้งแรกที่ศาลปกครองเชียงใหม่เป็นจำนวนกว่า 500 คน