ตร.เผยมือระเบิดซอยรามฯ ไม่เกี่ยวข้องเหตุรุนแรงภาคใต้ 
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องหาในคดีก่อเหตุระเบิดที่ซอยรามคำแหง 43/1 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า เป็นการปฎิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. และตำรวจนราธิวาส สามารถจับกุมตัว นายอิดริส สะตาปอ จากการขยายผลจับกุม ตามคำซัดทอดของ นายคัมภีร์ ลาเต๊ะ ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้
เบื้องต้น จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในโครงสร้างผู้ก่อความรุนแรง และไม่มีรายงานว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มบีอาร์เอ็นตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ และจากการรับสารภาพในชั้นต้นทราบว่า เป็นการชักชวนของคนที่เข้ามาก่อเหตุ มีด้วยกัน 4 คน เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ในชั้นต้นไม่เกี่ยวกับข้อง หรือเชื่อมต่อกับขบวนการภาคใต้ และไม่ใช่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ส่วนข้อมูลด้านความมั่นคง ที่สื่อมวลชนนำเสนอว่า นายอิดริส เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายครั้ง รวมถึงกรณีการวางระเบิดรถบัสของทหารค่ายจุฬาภรณ์ ที่ใช้ในการรับ - ส่งนักเรียน โดยเหตุเกิดบริเวณปากซอยโต๊ะกา บ้านฮูแตทูวอ หมู่ 4 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา รวมถึงคดีสังหารพระสงฆ์วัดพรหมประสิทธิ์ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น ผูุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า ไม่มีรายงาน
ส่วนการขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลโดยมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าไปควบคุมการปฏิบัติ
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไม่กังวลว่า อาจมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ขยายผลมาก่อเหตุใน กทม. แต่รู้สึกกังวลกับการชุมนุมเคลื่อนไหวของหลายกลุ่มในขณะนี้ เพราะอาจเกิดสถานการณ์มือที่ 3 สร้างความวุ่นวายในการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้นได้