ชาวบ้านชุมชนสันติพัฒนาเตรียมยื่นฟ้องถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินมิชอบ
นักวิชาการด้านกฎหมายและนักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยชาวชุมชนสันติพัฒนา ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานีกว่า 20 คน ร่วมหารือในเวทีเสวนาวิชาการ การออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ ผิดที่ใคร ทุนกลไก รัฐ หรือกระบวนการยุติธรรม ขณะที่วงเสวนาการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ระบุว่าคำตัดสินของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ให้จำคุกชาวชุมชนสันติพัฒนา เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐเพิกเฉยไม่ดำเนินตามกฎหมายอย่างจริงจัง
โดยหยิบยกกรณีศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัดสินให้จำคุกชาวชุมชนสันติพัฒนา 9 คน ในข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ และให้ชดใช้ค่าเสียหายกับบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด มหาชน เนื่องจากศาลเห็นว่า เอกสารสิทธิที่ดินแม้จะออกในพื้นที่ป่าไม้ถาวรและป่าสงวนแห่งชาติ แต่เมื่อยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ และเป็นชื่อของบริษัท ก็ถือว่าบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของที่ดินอยู่
ชาวชุมชนสันติพัฒนามองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง ปล่อยให้นายทุนเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอปัญหาการกระจายการถือครองที่ดินโดยไม่เป็นธรรม หากย้อนหลังหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ารัฐมีนโยบายนำพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาให้เช่าระยะยาวหลายสิบปี และเช่าในราคาถูก ประชาชนผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน ไม่ได้รับสิทธิในการเช่า แต่ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เช่าที่ดินส่วนใหญ่เป็นนายทุน นักการเมือง ข้าราชการ โดยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนายทุน ที่เป็นคนไทยและนายทุนจากต่างชาติ ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากที่ดินหลายแสนไร่ เพื่อปลูกน้ำมันปาล์มและยางพารา
ขณะเดียวกันนายทุนบางรายฉวยโอกาสบุกรุกที่ดินของรัฐทำประโยชน์ในที่ดิน มากกว่าที่ได้รับอนุญาต โดยทางรัฐก็เพิกเฉยไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ปล่อยให้นายทุนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดังกล่าวตลอดมา
ในช่วงบ่ายวันนี้ ชาวชุมชนสันติพัฒนาบางส่วน พร้อมด้วยสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จะยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อดำเนินการคดีกับกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ นส.3 ทั้งหมด 10 แปลง ที่ออกให้กับบริษัทอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มจำกัด มหาชน โดยมิชอบ รวมทั้ง ที่ดินอีก 3 แปลงที่ยังไม่มี นส.3 โดยให้นำที่ดินดังกล่าวมาเป็นของรัฐ