ปธน.บราซิลเรียก ครม. ประชุมฉุกเฉิน หลังมีผู้ชุมนุมต้านรัฐบาลกว่าล้านคน
สถานีโทรทัศน์ "โกลโบ ทีวี" (GLOBO TV) เผยแพร่ภาพของผู้ประท้วงที่พยายามจะบุกเข้าไปในกระทรวงการต่างประเทศในกรุงบราซิลเลีย โดยมีตำรวจสกัดอยู่ด้านใน ผู้ประท้วงบางคนจุดไฟนอกอาคารทำให้ตำรวจต้องใช้เครื่องดับเพลิงก่อนที่ไฟจะลามไปมากกว่านี้ ก่อนหน้าเหตุการณ์ที่กระทรวงต่างประเทศ ผู้ประท้วงได้ปิดล้อมอาคารรัฐสภา โดยตำรวจได้วางกำลังปิดกั้นทางเข้าออกเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงบุกเข้าไปด้านใน นอกจากนี้ตำรวจยังได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบประธานาธิบดีอีกด้วย
การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศช่วงค่ำวานนี้ มีการประเมินว่าน่าจะมีมากกว่า 1 ล้านคน ที่นครริโอเดอจาเนโร เป็นจุดที่มีการประท้วงใหญ่ที่สุด ประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมประมาณ 3 แสนคน
ส่วนที่นครเซาเปาโลคาดว่ามีประมาณ 110,000 คน ทั้งนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนในเมือง"ไรเบียโร เพรโต" เนื่องจากถูกรถจักรยานยนต์ชนระหว่างเข้าร่วมการประท้วง
การประท้วงที่ขยายวงกว้างมากขึ้นและทวีความรุนแรงมากขึ้ ทำให้นางดิลม่า รุสเซฟ ประธานาธิบดีหญิงตัดสินใจยกเลิกการเยือนญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้าและเรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี
นี่ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20ปีของบราซิล แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางการพยายามบรรเทาความไม่พอใจของผู้ประท้วงด้วยการยกเลิกการขึ้นค่าโดยสารบริการขนส่งสาธารณะ โดยหวังว่าการประท้วงจะยุติ
แต่สถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คาด เพราะสาเหตุของการประท้วงเกิดจากปัญหาหลายๆอย่างที่สะสมมานานนับปี ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีในอัตราสูง ภาวะเงินเฟ้อ การทุจริตคอร์รัปชั่นและบริการสาธารณะที่ไม่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล การศึกษา ถนนหนทางที่ไม่ดีเท่าที่ควร แต่รัฐบาลกลับทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการสร้างสนามกีฬา และเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีหน้าและมหกรรมกีฬาโอลิมปิคในปี 2016