การกีฬาแห่งประเทศไทยเตรียมผลักดันพัฒนากีฬาอาชีพ 13 ชนิดในไทย
นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพเเละสิทธิประโยชน์ เตรียมปรับปรุงระบบการบริหารจัดการของ 13 สมาคมกีฬาอาชีพในความดูเเลของ กกท.ให้เป็นไปตามเเผนพัฒนาวงการกีฬาไทยอย่างยั่งยืน
ก่อนหน้านี้ กกท.ได้ตัดงบประมาณสนับสนุนจัดการเเข่งขันลีกอาชีพระดับประเทศใน 3 ชนิดกีฬาประมาณ 10 ล้าน บาท เช่น โบว์ลิ่ง, เเบดมินตัน เเละเทเบิลเทนนิส เนื่องจากสมาคมเหล่านี้ ไม่สามารถสร้างผลงาน หรือแสดงออกถึงความเป็นอาชีพได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การได้รับความสนใจจากเเฟนกีฬาน้อยเกินไป เเละไม่สามารถจัดการในเรื่องสิทธิประโยชน์ จนทำให้ทับซ้อนกับงบประมาณสนับสนุนจากกีฬาเป็นเลิศ ซึ่งทำให้ กกท.ได้ปรับลดมาช่วยเหลือสนับสนุนส่งการเเข่งขันในระดับนานาชาติเเทน
ส่งผลให้ กกท.ได้เขียนเเผนโครงการที่เปรียบเสมือนเป็นหนึ่งในทางออกของปัญหาการจัดการของเเต่ละสมาคมกีฬาไทย ให้สามารถบริหารจัดการเเบบกีฬาอาชีพได้อย่างสมบูรณ์เเบบ ผ่านการจัดการเรื่องสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรองบประมาณจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว เหมือนกับหลายสมาคมกีฬาที่กำลังดำเนินงานอยู่ทุกวันนี้
โดยเเผนยุทธศาสตร์เเละเเผนปฏิบัติงานการพัฒนากีฬามวยไทยอาชีพ ระยะ 4 ปี เป็นโครงการสร้างกระเเสความตื่นตัวเเละอนุรักษ์กีฬามวยไทย เเละเป็นโครงการต้นเเบบที่ทาง กกท.ได้วางไว้ให้กับสมาคมกีฬาอื่นๆ ได้เดินตาม ด้วยการที่ กกท.เป็นผู้เขียนโครงการ เเล้วส่งต่อให้สมาคมกีฬาที่สนใจพัฒนาอย่างมืออาชีพนำไปปรับใช้
ซึ่งงบประมาณทั้งหมดทาง กกท.จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินโครงการ ในรูปเเบบ 3 พี คือ พับบลิค, ไพรเวท และพาร์ทเนอร์ชิพ โดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาเเละดำเนินโครงการ รับความเสี่ยง จากผลประกอบการ เเละไม่จำเป็นต้องส่งมอบกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินให้เเก่ภาครัฐ สำหรับตัวชี้วัดการพัฒนาสู่กีฬาอาชีพ ได้เเก่ เงินรางวัล เงินอุดหนุนทีมที่เข้าร่วมเเข่งขัน เงินที่ใช้จัดการเเข่งขัน การจัดหารายได้ การหาผู้สนับสนุน การสร้างเเฟนคลับ เเละการพัฒนาสถานที่เเข่งขัน
โครงการนี้ มีเเนวทางหลักคือ ใช้เเนวคิด ต่อยมวย ก็รวยได้ เริ่มจาก การเสนอขออนุมัติโครงการต่อผู้ว่าการ กกท.ตามด้วยการเเต่งตั้งคณะทำงาน เเละคณะกรรมการจัดการเเข่งขัน เพื่อประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงาน เเละจัดทำระเบียบ กติกา เเละกำหนดรูปเเบบการการเเข่งขัน คือ ในรอบคัดเลือก 5 ภาค เเละรอบชิงเเชมป์ประเทศไทย การกำหนดเเผนงานด้านสิทธิประโยชน์ การประชาสัมพันธ์ทั้งในส่วนกลาง เเละภูมิภาค การเปิดรับสมัครนักมวยตามคุณสมบัติที่กำหนดใน 4 รุ่นน้ำหนัก ตั้งเเต่ 147 ปอนด์ ไปจนถึง 168 ปอนด์ขึ้นไป
สำหรับค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เเบ่งเป็นในส่วนของ กกท. 3 ล้านบาท ได้เเก่ การจัดประชุมคณะทำงาน ค่าเดินทางของเจ้าหน้าที่ เเละค่าสนับสนุนการจัดการเเข่งขัน ขณะที่อีกส่วนเป็นความรับผิดชอบของภาคเอกชน ประมาณ 140 ล้าน 4 เเสนบาท ประกอบด้วย ค่าตัวนักมวยเงินรางวัล ค่าตอบเเทนคณะผู้ตัดสิน เเละค่าใช้จ่ายอื่นๆ
โครงการมวยไทยลีกอาชีพของ กกท.เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกให้กับสมาคมกีฬาอาชีพ รวมถึงสมาคมกีฬาอื่นในไทยให้สามารถพัฒนาได้อย่างมืออาชีพ เหมือนอย่าง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วอลเล่ย์บอลลีกหญิง ขณะที่ 2 สมาคมกีฬา เช่น บาสเก็ตบอล กับ เจ็ตสกี ก็เตรียมเข้าสู่กีฬาอาชีพในอนาคตอันใกล้นี้