ผู้สื่อข่าวหลายสำนักพยายามตระเวนตามหานายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างของซีไอเอที่เปิดเผยข้อมูลลับของหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ ภายในอาคารผู้โดยสารที่รอเปลี่ยนเครื่อง ของสนามบิน "เชอเรเมทเยโว" ในกรุงมอสโคว์ของรัสเซีย รวมถึงตามหาในโรงแรม ซึ่งอยู่ภายในสนามบิน
นายสโนว์เดนอยู่ภายในอาคารนี้นับตั้งแต่เดินทางมาจากฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ แต่ผู้สื่อข่าวไม่พบตัว ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่านายสโนว์เดนเตรียมเดินทางไปกรุงฮาวาน่า ประเทศคิวบา เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เขาได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไว้
ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ชี้แจงถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ในระหว่างการเยือนประเทศฟินแลนด์โดยกล่าวว่าการที่นายสโนว์เดนเดินทางมารัสเซียถือเป็นเรื่องที่รัสเซียไม่ได้คาดคิดมาก่อน ข้อกล่าวหาที่บอกว่ารัสเซียให้การช่วยเหลือนายสโนว์เดน จึงเป็นเรื่องไร้สาระ
นายสโนว์เดนยังไม่ได้เข้าประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทางการรัสเซียจับตัวชาวต่างชาติส่งให้สหรัฐฯ เพราะรัสเซียไม่เคยทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ และนายสโนว์เดนก็ไม่ได้ประกอบอาชญากรรมใดๆ บนผืนแผ่นดินรัสเซีย และหากนายสโนว์เดนเดินทางออกจากสนามบินรัสเซียได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ขณะที่นายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า สหรัฐฯไม่ต้องการเผชิญหน้ากับรัสเซียในกรณีของสโนว์เดน และรัสเซียเองก็ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากการช่วยเหลือนายสโนว์เดนด้วย
ส่วนเรื่องที่สหรัฐฯกับรัสเซียไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันก็จริง แต่ในฐานะที่เป็นพันธมิตรต่อกัน เป็นสมาชิกถาวรของสหประชาชาติเหมือนกัน สหรัฐฯหวังว่ารัสเซียจะปฏิบัติตามกฎหมายสากลในการควบคุมตัวผู้ที่ละเมิดกฎหมายของชาติอื่น และหนีการจับกุม
นายนิโคลัส มาดูโร่ ประธานาธิบดีของเวเนซูเอล่า กล่าวระหว่างการเยือนประเทศเฮติว่า เขาจะพิจารณารับเรื่องขอลี้ภัย หากนายสโนว์เดนยื่นเรื่องมา แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีการยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการ
มีรายงานข่าวระบุว่า นายสโนว์เดนเดินทางออกจากฮ่องกง โดยใช้เอกสารผู้ลี้ภัยที่รัฐบาลเอกวาดอร์ออกให้ เนื่องจากหนังสือเดินทางของเขาถูกรัฐบาลสหรัฐฯยกเลิก