“อคส. - ตำรวจ” เข้าตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศ พบความผิดปกติหลายพื้นที่
ตำรวจกว่า 1,000 นายในจังหวัดกำแพงเพชร กระจายกำลังเข้าตรวจสอบโรงสี และคลังสินค้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อคส.กว่า 100 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว เช่นเดียวกับจังหวัดนครสวรรค์ และ พิจิตร โดยเฉพาะจังหวัดพิจิตรพบว่า กำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ ต้องใช้วิธีการหมุนเวียน ทำให้การตรวจสอบล่าช้า
พลตำรวจตรีกฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ตำรวจไม่มีความชำนาญในการตรวจข้าว โดยเฉพาะการวัดปริมาตร และการดูว่าข้าวมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหา ด้วยการถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น
ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เบื้องต้นพบความผิดปกติภายในโกดังของโรงสีเจียเม้ง จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากการวางกระสอบเรียงเป็นชั้น ๆ ละ 30 กระสอบ แต่ระดับความสูงแตกต่างกัน
เช่นเดียวกับภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าบางโรงสีติดป้ายราคารับซื้อข้าวที่ราคาตันละ 8,500 บาทเท่านั้น ขณะที่บางแห่งมีการจัดเก็บสต๊อกข้าวไม่เป็นระเบียบ และอาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดในโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่อำเภอเมืองสงขลา พบว่าที่โกดังข้าว ส.ชนิกานพานิชย์ มีปลายข้าวที่รับจำนำเมื่อปี 2554/2555 จำนวน 21,060 กระสอบ อยู่ในสภาพมีฝุ่นและตัวมอดผสมอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบว่าข้าวที่รับจำนำมาตั้งแต่ปี 2552 ยังตกค้างอยู่ในโกดังอีก 2 แห่งกว่า 1,000 กระสอบ ที่ผู้ประมูลยังไม่ได้ขนย้ายออกไปจากโกดัง โดยอ้างว่าข้าวไม่มีคุณภาพ
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบโรงสีนพภร ในอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ที่พบว่ามีข้าวในโครงการรับจำนำหายไปกว่า 750 ตันมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ล่าสุด เจ้าหน้าที่ อคส.เตรียมเข้าแจ้งความข้อหาปลอมแปลงใบส่งข้าว เพิ่มอีกหนึ่งข้อหากับเจ้าของโรงสี
เช่นเดียวกับกับโรงสีเกษตรผลเจริญ ในตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) จังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีเช่นกันหลังพบว่าข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 5,000 ตัน หายไปจากโกดัง แม้เจ้าของโรงสีจะอ้างว่าข้าวเสียหายจากน้ำฝน และยินดีจะนำข้าวมาชดใช้ก็ตาม
สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบยอดปริมาณของข้าวที่แจ้งรับจำนำไว้ในสต๊อก เปรียบเทียบกับจำนวนที่คงเหลือในปัจจุบัน ว่ามีปริมาณตรงกันหรือไม่ หากมีการเคลื่อนย้ายปริมาณข้าวโกดังต้องมีเอกสารชี้แจงที่ชัดเจนว่ามีการเคลื่อนย้าย หรือมีการซื้อขายไปเมื่อไหร่และจำนวนเท่าไหร่ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบชนิด และคุณภาพของข้าว ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากบัญชีที่รับจำนำไว้หรือไม่ โดยคาดว่าผลการตรวจสอบทั่วประเทศจะรู้ผลภายในเย็นวันนี้