ภาคประชาชนร้องรัฐบาล ทบทวนจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน-ทำประชาพิจารณ์
เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนติดตามนโยบายการจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล และกบอ.ดำเนินการโครงการบริหารจัดการน้ำ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
องค์กรพัฒนาเอกชนเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นักวิชาการ และเครือข่ายองค์กรชุมชน รวมตัวกันในนาม เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนติดตามนโยบายการจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาล และกบอ.ทบทวนนโยบายบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับระบบภูมินิเวศทางสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งรัฐบาลต้องประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และสังคมให้รัฐบาลระงับการลงนามสัญญากับบริษัทที่ยื่นมาก่อนหน้านี้ และรัฐบาลต้องจัดให้มีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนในการวางแผน ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจและร่วมรับผิดชอบ
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ นำข้อมูลขององค์กรเอกชนเกาหลีใต้ ที่ให้ข้อมูลว่า บริษัทเค วอเตอร์ ไม่มีศักยภาพในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ การดำเนินการหลายโครงการไม่มีการรับฟังความเห็นจากภาคประชาชน มาเสนอให้ประชาชนทั่วประเทศรับทราบ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบต่อไป
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่องค์กรเอกชนเกาหลีใต้ ระบุว่า บริษัทเค วอเตอร์ มีปัญหาด้านการเงินและประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งไม่สามารถดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ได้ จึงถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลในการตรวจสอบ กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่ชนะการประมูลโครงการน้ำ
เบื้องต้นสอดคล้องกับข้อเสนอะแนะของคณะกรรมการปปช. ดังนั้น หากรัฐบาลฟังคำทักท้วงก็จะไม่มีปัญหา และเชื่อว่าไม่มีบริษัทใดจะมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่มากกว่าคนไทย ซึ่งท้ายสุดจะมาจ้างเหมาช่วงก่อสร้างแทน