“ประวิตร” ยืนยันกองทัพถอยห่างการเมือง
พรรคเพื่อไทยให้ทีมกฎหมายตรวจสอบเนื้อหาการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่แยกราชประสงค์ในเย็นวันนี้ โดยจะดำเนินการฟ้องร้องหากพาดพิงให้พรรคเสียหาย ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร” ย้ำถึงการปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย
ในการประชุมสภากลาโหมวันนี้ (23 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ระบุว่า คงจะไม่สั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องการเลือกตั้ง พร้อมเชื่อมั่นว่า ตำรวจจะดูแลความสงบเรียบร้อยทำให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนการปราศรัยใหญ่ของพรรคปะชาธิปัตย์วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ราชประสงค์ เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะดูแล ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ยืนยันว่า กองทัพจะต้องถอยห่างทางการเมือง และปล่อยให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปราศรัยที่แยกราชประสงค์ของพรรคในช่วงเย็นวันนี้ (23 มิ.ย.) เป็นการขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วง หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกโจมตี กล่าวหาใส่ร้ายว่าสั่งทำร้ายประชาชน ส่วนเหตุความวุ่นวายนั้นคงไม่มีเกิดขึ้น เพราะมั่นใจว่าตำรวจจะดูแลได้
นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า หลังพรรคประชาธิปัตย์เปิดปราศรัยใหญ่ แกนนำ นปช.จะแถลงตอบโต้ในทุกประเด็น พร้อมขอร้องไม่ให้กลุ่ม นปช.ไปร่วมฟังการปราศรัย เนื่องจากกังวลถึงเรื่องการสร้างสถานการณ์ ส่วนการต่อต้านระหว่างลงหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ ทางแกนนำ นปช.คงจะห้ามไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของแนวร่วม นปช.แต่ละคนที่มีความอดทนไม่เท่ากัน
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ว่า ทีมกฎหมายของพรรคจะติดตามฟังเนื้อหาการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ (23 มิ.ย.) ว่าจะมีผลกระทบกับพรรคหรือไม่ ซึ่งหากมีการพาดพิง ทำให้พรรคเสียหาย อาจจะมีการฟ้องร้อง และส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนอยากฟังนโยบายการแก้ไขปัญหาปากท้อง ความเป็นอยู่ มากกว่าการรับฟังความบอบช้ำของประเทศที่ผ่านมา
พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการเตรียมกำลังตำรวจดูแลความปลอดภัยการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ 700 นาย โดยมีตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ตำรวจจราจร ตำรวจสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้งย่านสยาม ชิดลม และสีลม ซึ่งอยู่ใกล้กับแยกราชประสงค์ พร้อมขอให้ประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที