"ภูมิธรรม" แจงฝ่ายค้านประเด็นปฏิรูปกองทัพ ลดนายพลได้ผล ยึดหลักความเป็นจริงสอดของสถานการณ์โลก ยืนยันรัฐบาลไม่ได้มีนโยบายไอโอ พร้อมรับข้อมูลไปตรวจสอบ แต่เรื่องใดเป็นการแสดงขอปล่อยผ่าน ชี้ บางเรื่องเป็นเรื่องเก่าก่อนที่ "แพทองธาร" เข้ามาบริหารประเทศ
ถูกจับตาว่า ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ส่วนกรอบเวลาในการอภิปราย วิปรัฐบาล เห็นควรกำหนด "วันเดียว" 24 มีนาคม เหตุเป็นการอภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว ท่ามกลางข้อท้วงติงของพรรคประชาชน ที่ก่อนหน้านี้ขออภิปรายรวม 5 วัน
คนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่นร่วมวงดินเนอร์แบบอเมริกันแชร์ หารค่าอาหารคนละ 7,000 บาท หากมองอย่างมีนัยทางการเมือง และในสถานการณ์ที่เห็นบรรยากาศชื่นมื่น ยิ่งสะท้อนให้เห็นการประสาน การเจรจา เอาเรื่องอื่นไว้ทีหลัง รับมือศึกใหญ่ก่อนนั่นคือการอภิปรายรัฐบาล
กระแสข่าวผู้นำ 2 ค่ายสี นัดเคียร์ใจที่โรมแรมพูลแมน ปรากฏว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่ได้ปรากฏตัวตามที่ลือกัน ฝ่ายที่ปรากฏตัวมีเพียง "เนวิน ชิดชอบ" ซึ่งเจ้าตัวก็ไปพักที่นั่นตามปกติวิสัยเวลาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสข่าวทั้ง 2 นัดเคลียร์ใจเกิดขึ้นจริง สะท้อนภาพการเมืองอันขัดแย้งกันในช่วงเวลานี้ระหว่าง 2 ค่ายสี การวัดพลังจะต่อยอดไปไกลอีกขนาดไหน ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังพยายามพิสูจน์อะไร วิเคราะห์เรื่องนี้กับนักรัฐศาสตร์จากนิด้า อ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
ปฏิบัติการของ DSI ครั้งนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เกี่ยวข้อง-เชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่การเมืองกำลังถูกแบ่งขั้ว เพราะสภาสูง หรือ สว. ถูกขนานนามว่า "สว.สีน้ำเงิน" ทำให้เกิดดุลอำนาจกับแกนนำฝ่ายบริหารอย่าง "พรรคเพื่อไทย" ที่กำลังถูกตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง
วันนี้ (14 ก.พ. 68) หัวหน้าพรรคประชาชน คาดหวังให้สมาชิกรัฐสภาแสดงความกล้า เพื่อเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ท่ามกลางการจับตามองถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย รวมไปถึง สว.ค่ายสีน้ำเงิน จะเป็นเหตุให้ ร่างแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับจะถูก "ตีตก" และปิดฉากไทม์ไลน์การแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนเลือกตั้ง ปี 2570 หรือไม่
วันที่ 13-14 ก.พ.2568 การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่มีการบรรจุร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องติดตามและลุ้นว่าร่างทั้ง 2 ฉบับ คือร่างของพรรคเพื่อไทยกับร่างของพรรคประชาชน จะผ่านด่านแรกวาระรับหลักการหรือไม่ ด้านพรรคภูมิใจไทย มีมติไม่ร่วมสังฆกรรมแก้รัฐธรรมนูญ หวั่น ขัด คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สนเป็นแพะรับบาปขวางการแก้ไขประเด็น และไม่ใช่แค่พรรคภูมิใจไทย ที่ไม่เห็นด้วยกับการเดินหน้ากระบวนการ แต่ พรรคพลังประชารัฐ ก็ย้ำจุดยืน ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประกาศจะโหวตไม่เห็นด้วยในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ. 68) ติดตามได้ในช่วง #ประจักษ์วิเคราะห์ กับ ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
บทบาท "ประธานกลุ่มที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ" ของนายทักษิณ กำลังถูกจับตามองถึงเจตนาที่จะยกระดับแผน "ดับไฟใต้" หลังยกระดับการแก้ปัญหายาเสพติด ผ่านแผนปฏิบัติการ "Seal Stop Safe" ซึ่งทั้ง 2 นโยบายที่ว่านี้ พรรคเพื่อไทย หรือนายทักษิณ กำลังขับเคลื่อนเพื่อปิดช่องว่างในอดีต
อีก 1 สัปดาห์ การเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ 47 จังหวัด จะเริ่มขึ้น ช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้จะเห็นการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่แข่งขันสูง หนึ่งในนั้น คือ จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เจอโจทย์ใหญ่ที่ต้องโค่นแชมป์เก่า ตระกูล "ไตรสรณกุล" ไปบุกถิ่น "ค่ายสีน้ำเงิน" ทั้งที อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จึงเปิดศึก "ไล่หนูตีงูเห่า" อีกครั้ง
การลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัครของ นายทักษิณ ชินวัตร ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน แม้พื้นที่ที่ลงไป ยังไม่มีอดีตนายก อบจ. ที่มาจากพรรคเพื่อไทย แต่ในมุมมองของนักวิชาการมองว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ แก้เกมถูก เพราะถ้าไม่เกาะกระแสท้องถิ่น สนามหน้าอาจถูกพรรคคู่แข่งแบ่งเค้กไปได้
ในบรรดาผู้สังเกตการณ์ตอนนี้ ต้องถกเถียงกันเรื่องความคุ้มค่าและผลกระทบ ที่จะตามมาจากโครงการสถานบันเทิงครบวงจร แต่ในมิติทางการเมือง จะส่งผลดีเพิ่มคะแนนนิยมให้รัฐบาล เหมือนเมกะโปรเจ็กต์ในอดีตที่พวกเขาเคยทำ หรือจะกลายเป็นโครงการที่บั่นทอนความนิยมของรัฐบาลมากกว่ากัน
"พรรคเพื่อไทย" เปิดตัวสมาชิกบ้านใหญ่ "ม่วงศิริ" รวดเดียวหลายคน นี่คือตระกูลการเมืองเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ฝั่งธน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการเตรียมพร้อมรับมือเลือกตั้งครั้งหน้า หลังพลาดท่าได้เพียงแค่เขตเดียวเมื่อปี 2566 ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง "ม่วงศิริ" ก็เป็นคู่แข่งของ "อยู่บำรุง" มานาน การปรับทัพครั้งนี้ เห็นภาพอนาคตของแต่ละฝ่ายชัดเจนแล้ว