สบอช.ยันไม่ชะลอโครงการจัดการน้ำ ภาค ปชช. ยื่นจดหมายตรวจสอบ
เครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศ 11 กลุ่ม เช่น สภาลุ่มน้ำท่าจีน มูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) เครือข่ายลุ่มน้ำภาคเหนือ กลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ตำบลสะเอียบ จังหวัดแพร่ ร่วมกันทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายปัก กึน เฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนไทยในโครงการบริหารจัดการน้ำ
โดยเนื้อความระบุว่า เพื่อความโปร่งใส ป้องกัน และประเมินผลกระทบจากโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท เนื่องจากหนึ่งในบริษัทที่ได้รับคัดเลือก คือ บริษัทโคเรีย วอเตอร์แอนด์รีซอสเซส (เค วอเตอร์) จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งประชาชนไทยไม่เคยรู้จักบริษัทเค วอเตอร์ มาก่อน
ขณะที่ ข้อมูลที่ได้รับจากรัฐบาล มีเพียงข้อมูลเฉพาะเรื่องผลงานและความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว การดำเนินชุดโครงการก่อสร้างฟลัดเวย์ ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถูกตรวจสอบ
ขณะที่นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ระบุว่า ไม่มีแนวคิดที่จะหลีกเลี่ยงไม่ทำ EIA และจะทำทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะมีการสอบถามประชาชน
พร้อมยืนยันไม่อาจชะลอโครงการทั้ง 9 โมดูล ในการบริหารจัดการน้ำได้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำเหมือนปี 2554 และขณะนี้ ในส่วนของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ยังคงรอข้อคิดเห็นจากคณะกรรมการ ที่มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมตรี เป็นประธาน ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ชะลอโครงการ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน