สำนักสงฆ์ขันติบารมี สาขา ที่ 1 ต.ทรายมูล อ.พิบูลย์มังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสาขาของสำนักสงฆ์ ขันติธรรม อ.กันทรามย์ จ.ศรีสะเกษ ของพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานที่พักสงฆ์ขันติธรรม และเป็น 1 ใน 3 จุดที่ตำรวจกองปราบปรามเตรียมเข้าตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงในคดีฉ้อโกง สภาพปัจจุบันถูกปล่อยทิ้งร้าง ภายในมีสิ่งก่อสร้าง ทั้งอาคารที่พัก ห้องน้ำจำนวนมาก รวมถึงฐานพระพุทธรูป ที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ซากเครื่องยนต์นำเข้าจากต่างประเทศและชิ้นส่วนรถยนต์จำนวนหนึ่ง คือหลักฐานที่หลงเหลือและชี้ให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้อาจเคยเป็นที่ดัดแปลงเครื่องยนต์รถที่ใช้ในสำนักสงฆ์ ซึ่งแหล่งข่าวรายหนึ่งอ้างว่ามีมากกว่า 10 คัน ขณะที่การตรวจสอบยังพบเอกสารที่ออกโดยสำนักสงฆ์ขันติธรรม ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ กพล. หรือกองงานพระเลขานุการวัดป่าขันติธรรม ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าสมควรหรือไม่
นอกจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ตำรวจกองปราบปรามและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.จะเข้าตรวจสอบบ้านพักพ่อแม่ของพระเณรคำ รวมถึงมูลนิธิขันติธรรมที่กำลังดำเนินการก่อสร้างมูลค่าหลายร้อยล้านบาท จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต่างปฎิเสธที่จะให้ข้อมูล และบอกว่าครอบครัวของพระเณรคำจะแยกตัวออกจากชุมชน ซึ่งประตูบ้านจะปิดอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งที่เคยศรัธา และบริจาคฆ้องให้กับพระเณรคำเพื่อนำไปไว้ที่สำนักสงฆ์ขันติบารมี บอกว่า หมดศรัธาหลังทราบข่าวการร้องเรียนพฤติกรรมของพระเณรคำ และต้องการขอฆ้องที่บริจาคคืน เพราะเห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่น่าจะสร้างเป็นวัดตามคำบอกเล่าของพระเณรคำ ที่เคยมาขอรับบริจาคเงินเพื่อนำไปสร้างวัดในชุมชน
การเข้าตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดของพระเณรคำ ตำรวจกองปราบปรามและปปง. กำลังรวบรวมหลักฐาน ในคดีฉ้อโกง ประชาชน ซึ่งต้องสอบปากคำผู้เสียหาย โดยเฉพาะรายนามผู้บริจาคเงินให้กับสำนักสงฆ์ขันติธรรม เพื่อนำไปก่อสร้างสำนักสงฆ์ สาขาต่าง ๆ ว่ามีการนำไปใช้ตามวัตถุประสงฆ์หรือไม่ หลังพบว่าบางแห่งมีการเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่มีการดำเนินการก่อสร้างจริง ขณะเดียวกันจะขออำนาจศาลเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดพ่อแม่ของพระเณรคำ เพื่อตรวจสอบในประเด็นการร้องเรียนเรื่องภรรยาและบุตร หากพบว่าเป็นจริงจะทำให้พระเณรคำพ้นจากสภาพความเป็นพระทันที