สหรัฐฯ เร่งตรวจสอบอุบัติเหตุเครื่องบิน “เอเชียน่า แอร์ไลน์” ตก
คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุถึงความเป็นไปได้ที่รถกู้ภัยอาจจะทับ 1 ในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินขอบรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความชุลมุน และเจ้าหน้าที่เองต่างก็ให้ความสำคญกับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและรีบนำตัวไปรักษา ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสนามบิน และรอผลการชันสูตร
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นหญิงวัยรุ่นชาวจีน และบาดเจ็บมากกว่า 180 คน ในจำนวนนี้มีลูกเรือคนไทยรวมอยู่ด้วย 2 คน กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าคนไทยทั้ง 2 คน ทราบชื่อเล่นว่าน้องหมิว และ น้องอี๊ฟ ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยน้องหมิว มีอาการกระดูกคอเคลื่อนแต่ไม่เป็นอันตราย ส่วนน้องอี๊ฟยังคงรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู แพทย์ไม่อนุญาตให้เยี่ยม โดยทางนายกสมาคมแคลิฟอร์เนียภาคเหนือได้หารือกับผู้ปกครองของน้องอิ๊ฟที่ประเทศไทยแล้วถึงเรื่องขอการมอบอำนาจในการดูแลรักษาในระหว่างนี้
เมื่อวานนี้นายยูน ยอง ดู ผู้บริหารของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ ได้ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยยอมรับว่านายลี กัง กุ๊ก ผู้ช่วยนักบินอยู่ในช่วงของการฝึกบินเครื่องบินโบอิ้ง 777 จริง โดยมีชั่วโมงบินเพียง 43 ชั่วโมง และนี่เป็นครั้งแรกที่เขานำเครื่องบินชนิดนี้ลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโก แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยนำเครื่องบินชนิดอื่นๆ ลงจอดที่สนามบินแห่งนี้มาแล้ว 29 ครั้ง และมีชั่วโมงบินตลอดอายุการทำงานในฐานะนักบินมากกว่า 9 พันชั่วโมง นอกจากนี้ในเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุ ยังมีนักบินที่มีประสบการณ์สูงในการขับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ประกบไปด้วย คือนายลี จอง มิน ที่ขับโบอิ้ง 777 มาแล้ว 3,220 ชั่วโมง
การตรวจสอบข้อมูลจากกล่องดำพบว่า เครื่องบินไม่มีสัญญานว่าจะเกิดปัญหาใดๆ เลย จนกระทั่งในช่วง 7 วินาทีสุดท้าย ซึ่งนักบินใช้ความเร็วเพียง 107 น็อตในการลงจอด ซึ่งช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยความเร็วมาตราฐานควรอยู่ที่ 137 น็อต อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจนของอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้
ส่วนอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกน้ำมันดิบตกรางและเกิดระเบิดในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่รัฐควิเบกช่วง 1:00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 13 คน สูญหายมากกว่า 40 คน ทั้งนี้คาดว่าผู้สูญหายน่าจะเสียชีวิตทั้งหมดซึ่งจะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 50 คน จะถือเป็นอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 15 ปีของแคนาดา