<"">
พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว และ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน เห็นตรงกันว่า สังคมพุทธศาสนาไม่ได้ตกอยู่ในภาวะวิกฤตศรัทธา หลังเผชิญกับสถานการณ์ข่าว กรณีปัจเจกบุคคลสร้างความเสื่อมเสียให้กับพุทธศาสนา พร้อมกับชี้ว่า พุทธบริษัทต้องร่วมกันปกป้องรักษา ควบคู่กับโครงสร้างทางสังคมและกฎหมายที่ต้องดูแลตรวจสอบอย่างเข้มแข็งด้วย
หลังสังคมพุทธศาสนา ต้องเผชิญกับสถานการณ์ข่าว ทั้งหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ ข่าวนำในจอทีวี หรือข่าวออนไลน์ในเว็บไซต์ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่ถูกแชร์กันในสังคมโซเซียลเน็ตเวิรค์ กรณีปัจเจกบุคคลสร้างความเสื่อมเสียให้กับพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมที่ถูกเรียกว่า ลาภสักการะ ไปจนถึงเรื่องที่ ผู้ห่มผ้าเหลืองยุ่งเกี่ยวกับสตรี หรือ ยาเสพติด อันนำมาซึ่งความไม่เหมาะสม
พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว และ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ปฏิเสธกระแสกรณีสังคมพุทธศาสนาตกอยู่ในภาวะวิกฤตศรัทธา และชี้ว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของปัจจเจกบุคคล ซึ่งคงต้องใช้สติและปัญญาพิเคราะห์ในความเป็นจริง เพื่อแยกแยะในสิ่งที่ถูกและควรออกจากกัน
<"">
แม่ชีศันสนีย์ กล่าวยอมรับว่า หากพุทธบริษัท ขาดวินัย ไม่เข้าใจในศีลและธรรม อวิชาจะเกิดขึ้น และความทุกข์จะตามมา สุดท้ายความศรัทธาจะเสื่อมถอย เพราะไม่มีสติและปัญญา ดังนั้นพุทธบริษัทต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในพุทธศาสนา เพื่อให้เกิดความจริงอันเป็นที่ประจักษ์ในคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เช่นเดียวกับคำกล่าวของพระพยอม ที่เน้นย้ำถึงการยึดมั่นในคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แทนการยึดติดกับตัวบุคคล และกล่าวว่า พุทธบริษัทต้องตั้งจิตให้มั่น ไม่หลงไหลอ่อนแอไปกับสิ่งหลอกลวง ไม่ศรัทธาในมิจฉาทิฐิ เชื่อในสิ่งที่ผิด ยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าคำสอนของพระพุทธองค์
<"">
แม่ชีศันสนีย์และพระพยอม เห็นควรตรงกันว่า 22 ก.ค.นี้ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พุทธบริษัท ทั้ง 4 อันได้แก่ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา ผู้นับถือพระพุทธศาสนาจะได้ใช้โอกาสนี้ ปวารณาตนร่วมปกป้องควบคู่ไปกับโครงสร้างการดูแลตรวจสอบ พระพุทธศาสนา ให้เป็นไปตามศีล ตามธรรมและวินัยที่กำหนดไว้