40 ปี ตำนาน บรูซ ลี ราชากังฟูแห่งวงการภาพยนต์
ลีลารักษาประตูขั้นเทพของฝ่ามือยมทูตใน Shaolin Soccer จนถึงการกำจัดแก๊ง Crazy 88 ทั้งสำนักด้วยตัวคนเดียวของ The Bride ใน Kill Bill ล้วนมีภาพจำร่วมกันคือชุดสีเหลืองแถบดำ ที่ตัวละครสวมใส่ และครั้งหนึ่งเคยเป็นชุดเก่งของ บรูซ ลี ใส่ในผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง เกมมังกร" ที่ออกฉายหลังการเสียชีวิตของเขา ชุดที่เป็นตำนานถูกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ Bruce Lee: Kung fu. Art. Life ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และมูลนิธิบรูซ ลี โดยนำของที่ระลึกกว่า 600 ชิ้นของนักแสดงผู้ล่วงลับมาจัดแสดง เพื่อรำลึกในวาระ 40 ปีการจากไปของราชากังฟูแห่งวงการภาพยนตร์
นอกจากบรูซลีจะทำให้ภาพยนตร์กังฟูเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ชมตะวันตกแล้ว ยังมีส่วนทำให้การออกแบบฉากต่อสู้ในหนังฮ่องกงที่เคยเน้นแต่การใช้ดาบมาสู่ การใช้ศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่ามากขึ้น โดยเฉพาะความสำเร็จของ Fist of Fury เรื่องราวของหนุ่มผู้ใช้กังฟูต่อสู้กับการรุกรานของต่างชาติ ถือเป็นผลงานที่สร้างแรงบันดาลให้กับพระเอกนักบู๊ยุคหลัง ทั้งเวอร์ชั่นภาคต่อในยุค 80 ที่กลายเป็นผลงานนำแสดงครั้งแรกของเฉินหลง รวมทั้งเวอร์ชั่นดัดแปลงของหลี่เหลียนเจี๋ย และ เจินจื่อตัน ซึ่งในนิทรรศการมีการนำอาวุธคู่กายของบรูซลี คือพลอง 2 ท่อน มาจัดแสดง พร้อมกับของหายากอย่างสตอรี่บอร์ดการออกแบบการต่อสู้โดยบรูซลี และรวมถึงบัตรสมาชิกของ Jun Fan Gung Fu สำนักมวยจีนที่บรูซลีก่อตั้งในสหรัฐเมื่อยุค 60
ผู้เป็นแม่งานของ นิทรรศการนี้คือ แชนอน ลี บุตรสาวของบรูซลี ซึ่งกล่าวว่างานนี้จะทำให้แฟนของบรูซลีที่รู้จักเขาในฐานะนักสู้หรือนักแสดง ได้รู้อดีจนักแสดงดังในมิติอื่นๆ เช่น ในฐานะนักเต้นระดับถ้วยรางวัล หรือ กวีผู้มีผลงานแต่งกลอนเป็นภาษาอังกฤษ และในฐานะชายผู้อุทิศตนให้กับครอบครัว และผู้ก่อตั้ง จีทคุนโด้ ศิลปะการป้องกันตัวที่ผสมผสานศิลปะการต่อสู้แนวต่างๆมาพัฒนาให้มีความ ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์การต่อสู้ ซึ่งถูกนำไปใช้ทั้งในภาพยนตร์ของบรูซลีเอง และภาพยนตร์ในยุคหลังทั้งในหนังไทยและต่างประเทศ ซึ่งวันนี้ จีทคุนโด้ ที่บรูซลีคิดค้นขึ้นยังคงได้รับการสานต่อโดยผู้ฝึกศิลปะการป้องกันตัวที่มี อยู่ทั่วโลก
แชนอน ลี กล่าวว่าทุกวันนี้เธอเดินทางไปทั่วโลกเพื่อจัดงานเกี่ยวกับบรูซลี ไม่ใช่เพราะเธอต้องการให้ผู้คนมาสนใจชีวิตของดาราที่สร้างชื่อจากการเล่น หนังกังฟู แต่เป็นเพราะปรัชญา และแนวคิดที่อยู่ในผลงานของบิดาได้สร้างแรงบันดาลใจให้ กับผู้คนมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเธอมองว่าเป็นคุณค่าทางจิตวิญญาณที่สมควรได้รับการรักษาเอาไว้สืบต่อไป