ผลวิจัยพบคนไทยมีแนวโน้มทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น
การเสวนาหัวข้อ " สร้างทิศทางใหม่ สังคมไทยใส่ใจความซื่อตรง " ในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 6 นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า แม้ผลการจัดอันดับดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นขององค์กร เพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประจำปี 2555 เผยอันดับไทยตกลงมาอยู่ที่ 88 จากปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 80 ซึ่งในระดับประเทศ ถือว่าน่ากังวล เพราะผลวิจัยจากการสำรวจ พบแนวโน้มคนไทยยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น
ขณะที่แผนพัฒนาความซื่อตรงแห่งชาติ ซึ่งจัดทำโดยศูนย์คุณธรรม ( องค์การมหาชน ) ร่วมกับ 25 ภาคีเครือข่าย ยังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติเท่าที่ควร
นอกจากนี้ ผู้ใช้อำนาจรัฐ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐบางคน ใช้อำนาจ และความเก่ง ในทางที่ไม่ถูกต้อง แม้จะมีกฎระเบียบ ข้อบังคับ กำหนดชัดเจนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องมีความซื่อตรงต่อหน้าที่
ขณะที่ผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ผู้ใช้อำนาจรัฐ ควรเป็นแบบอย่างของความซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบเป็นที่ตั้ง มากกว่าแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว และปลุกจิตสำนึกเยาวชน ให้รู้จักเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ด้านศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย เดือนมิถุนายน 2556 พบขึ้นอยู่ที่ระดับ 41 เพิ่มขึ้นจากระดับ 39 โดยมีประชาชนกว่าร้อยละ 74 เห็นว่าปัญหาคอร์รัปชั่นมีความรุนแรงมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวว่า ผลสำรวจยังระบุว่า ภาคเอกชนกว่าร้อยละ 78 ยังต้องการจ่ายเงินพิเศษ ให้กับข้าราชการ และนักการเมือง ที่ทุจริตเพื่อให้ได้สัญญา ในการจัดซื้อจัดจ้าง
โดยส่วนใหญ่จ่ายในอัตราร้อยละ 25 ของมูลค่าโครงการ ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหาย ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปี 2556 มีงบประมาณรายจ่ายกว่า 2.4 ล้านล้านบาท จะสูญเสียเงินมาก 23,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่กังวลการคอร์รัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวมากที่สุด รองลงมาคือโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูล ราคากลางและทีโออาร์ เพื่อป้องกันการทุจริตในอนาคต