บอร์ดกสท.ยังไม่พิจารณาเนื้อหาซีรียส์"ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น"

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท. มีมติในการเริ่มต้นการกำกับดูแลเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม บนช่องรายการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ หรือ ช่องทีวีดาวเทียม และช่องเคเบิ้ลทีวี อย่างจริงจัง

 

ภายหลังตั้งแต่ที่เริ่มให้ใบอนุญาตในวันที่ 30 ม.ค.56 ทาง กสทช. ได้ให้การผ่อนผันมาโดยตลอด เนื่องจากเห็นว่า อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการไม่มีผู้กำกับดูแล มาเข้าระบบกำกับดูแลภายใต้ระบบใบอนุญาตของ กสทช.

 

โดยจากนี้ กสทช. จะเน้นการตรวจสอบรายการที่มีการนำเสนอเนื้อหารายการที่ไม่เหมาะสม มีการเผยแพร่โฆษณาเกินจริง หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาการและยา

 

ในส่วนการลงโทษในระยะจะใช้วิธีการพิจารณาในเรื่องของการต่อใบอนุญาตเป็นหลัก ซึ่งจะดูเป็นกรณีไป เช่นอาจพิจารณาไม่ต่อใบอนุญาตให้ หรืออาจต่อระยะสั้นเป็นระยะเวลา 1 ปี และ 6 เดือน

 

สำหรับการพิจารณาการนำเสนอเนื้อหารายการของ ละครชุด "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ที่ออกอากาศบนช่อง จีเอ็มเอ็มวัน ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) ที่ประชุมบอร์ดครั้งนี้ ยังไม่มีการพิจารณาแต่อย่างใด เนื่องจากการพิจารณาดังกล่าว ยังอยู่แค่ในระบบของ คณะอนุกรรมการด้านกำกับผังและเนื้อหารายการเท่านั้น ทั้งนี้การพิจารณาจะเป็นไปตามลำดับ และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

 

สำหรับประเด็นที่เชิญเข้าพบเพื่อหารือร่วมกันในด้านของกระบวนการการคิด การนำเสนอเนื้อหาของละคร ไปจนถึงกระบวนการคัดเลือกของช่องในการเลือกนำละครเรื่องดังกล่าวมาออกอากาศ พร้อมทั้งขอต้นฉบับของละครที่ได้ใช้ในการเผยแพร่จริง เพื่อถอบเทปเนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนออาจไม่ตรงกันกับในอินเทอร์เน็ต

 

ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาความผิดแต่อย่างใด ท้ายสุดกระบวนการอาจจะจบเพียงให้แค่ตักเตือน หรืออาจขอความร่วมมือในการปรับแก้เนื้อหาบางส่วน ไม่ต้องถึงขั้นลงโทษความผิดก็เป็นได้

 

ด้านผู้กำกับซีรีย์ นายทรงยศ สุขมากอนันต์ ระบุว่า จากกรณีที่ กสทช.เรียกให้เข้าไปชี้แจงเรื่องเนื้อหาซีรีย์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ หลังได้รับรายงานว่ามีเนื้อหาล่อแหลม มีการนำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีนั้น ยินดีให้ความร่วมมือ แต่หากจะขอดูเทปหรือแก้ไขเทปซีรีย์ อาจต้องปรึกษาทีมกฎหมายของบริษัทก่อนเช่นกัน

 

ขณะที่ ข้อมูลการติดตามตรวจสอบเนื้อหารายการ และโฆษณา ซึ่งอาจไม่เหมาะสม พบว่า 2 ปีที่ผ่านมา มีไม่ถึง 10 รายถูกตรวจสอบ ขณะที่เรื่องร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1200 ของ กสทช. ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีร้องเรียนโฆษณา หรือ เผยแพร่รายการไม่เหมาะสมเพียง 5 เรื่อง

 

เมื่อย้อนมาดูข้อมูลปี 2555 มีการร้องเรียนทั้งหมด เฉพาะวิทยุ และทีวี กว่า 700 เรื่อง สอบสวนยุติแล้ว 615 เรื่อง ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้ (56) มีผู้ร้องเรียน 148 เรื่อง ยุติแล้ว 40 เรื่อง แต่ตัวเลขทั้งหมดไม่ได้ถูกแยกว่าเรื่องไหนเป็นโฆษณา หรือ รายการไม่เหมาะสม

 

ส่วนข้อมูลจากมีเดียมอนิเตอร์ เปิดเผยผลการศึกษาสปอตโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความงามทาง เฉพาะสื่อวิทยุปี 2555- 56 พบจำนวน 71 ชิ้นสปอต และ กว่า 50 สปอตโฆษณา เข้าข่ายโฆษณาฝ่าฝืน พระราชบัญญัติยา ข้อความที่ใช้โฆษณามากที่สุด คือ โอ้อวดสรรพคุณแต่ข้อมูลของมีเดียมอนิเตอร์ ไม่มีผลทางกฎหมาย

 

ขณะที่การเรียกตรวจสอบเนื้อหาของกสทช. กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ของซีรีย์เรื่องดังกล่าวอย่างมากในโซเชียลมีเดีย ก็กลับมีภาพนักแสดงสาวคนหนึ่งในซีรีย์ดังกล่าว ทำท่าทางคล้ายกำลังเสพยา โดยผู้ปกครองของนักแสดงสาวได้ออกมายอมรับว่า ลูกสาวได้เสพยาไอซ์จริง โดยครอบครัวได้มีการเรียกลูกสาวมาสอบถาม ซึ่งลูกสาวยอมรับว่า เคยเสพยาไอซ์จริง ๆ 1 ครั้ง พร้อมกล่าวขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งครอบครัวรวมถึงลูกสาวรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ที่ลูกทำไปเพราะยังเด็กทำให้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้ติดยา