<"">
ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบ "คราบน้ำมัน" ต่อปะการัง และการท่องเที่ยว อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง
วันนี้ (31ก.ค.56) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจแนวผลกระทบของคราบน้ำมัน ที่มีต่อแนวปะการัง ซึ่งคราบน้ำมันมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง และอยู่ใกล้กับเกาะขาม ซึ่งถือเป็นแหล่งแนวปะการัง ที่อุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม มีการระบุว่า คราบน้ำมันในลักษณะฟิล์มบาง สามารถระเหยได้นั้น นักสำรวจชี้แจงว่า ในน้ำมันมีเพียงสารประกอบบางตัวที่สามารถระเหยได้จริงตามธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เช่น จารบี ที่ไม่สามารถระเหยได้เอง
ทั้งนี้ จากการสอบถามจากชาวประมงที่ออกหาปลาเมื่อคืนนี้ พบว่า อวนมีสีดำบางส่วน ซึ่งชาวประมงคาดว่า เกิดจากคราบน้ำมัน ขณะที่จำนวนปลาที่หาได้ จากปกติได้หลายร้อยกิโลกรัม แต่ครั้งนี้กลับได้ปลาเพียง 20 กิโลกรัมเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังลงสำรวจผลกระทบของการท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด บริเวณหาดทรายแก้ว ยังคงมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แต่ก็ถือว่ามีนักท่องเที่ยวปริมาณลดลงอย่างมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเผยว่า รู้สึกเสียดายธรรมชาติโดยเฉพาะหาดทรายที่ขาวสะอาดซึ่งได้รับผลกระทบ
ขณะที่นายศิลา เอื้อวงศ์ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด เผยว่า มีการยกเลิกการจองห้องพักและรถจักรยานยนต์กว่า ร้อยละ 50 เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนของคราบน้ำมัน
ด้าน บ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด ระบุว่า ได้ดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันข้นได้หมดแล้ว เหลือเพียงการเก็บกู้บริเวณชายหาด และการทำความสะอาดบริเวณโขดหิน แต่จากการสำรวจของทีมข่าวไทยพีบีเอส พบว่า ยังคงมีพื้นที่ด้านใต้ของอ่าวพร้าวที่ยังคงมีคราบน้ำมัน เนื่องจากเป็นโขดหิน และปะการังซึ่งยากต่อการทำความสะอาด และที่การใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันได้รับคำตอบว่ายังไม่มีการใช้สารขจัดคราบบริเวณน้ำตื้น