"ลมหัวด้วน" พัดบ้านนครศรีฯ เสียหาย - น้ำท่วมสุราษฎร์ฯ เริ่มลดระดับ

วันนี้ (27 พ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เกิดลมกระโชกแรง หรือที่ท้องถิ่นเรียกว่า “ลมหัวด้วน” พัดถล่ม แม้เป็นช่วงเวลาไม่กี่นาที แต่สร้างความเสียรุนแรง โดยเฉพาะบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมโดยพายุลักษณะนี้จะมีแรงลมหมุนและพัดไปตามแนว มีความกว้างเพียงไม่กี่สิบเมตรและจะพัดถล่มไปตามร่องลมอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะอ่อนกำลังลง ตลอดเส้นทางริมขอบลมจะไม่มีความเสียหาย เว้นร่องลมจะเสียหายอย่างรุนแรง

เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายให้กับสวนทุเรียน โดยต้นทุเรียนขนาดใหญ่ล้มระเนระนาด บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว

ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมามีการระดมเครื่องผลักดันน้ำเข้าติดตั้งเพิ่มเติมในคลองหน้าเมือง ช่วงถนนพัฒนาการคูขวาง เพื่อเร่งผลักดันน้ำในช่วงเวลาน้ำทะเลลดระดับ บรรเทาจากภาวะทะเลหนุน ประกอบกับฝนหยุดตกเป็นระยะทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายกณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การระบายน้ำเป็นไปตามแผนร่วมกันระหว่างเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กรมชลประทาน และภาคประชาชนที่ช่วยกันระวังในจุดสำคัญของการสืบน้ำ โดยเฉพาะในจุดที่ขยะมักจะอุดตันระบบ ทำให้ระดับน้ำดันสูงเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งต้องช่วยกันเฝ้าระวังและขอความร่วมมือไม่ทิ้งขยะ

น้ำท่วม 2 อำเภอในสุราษฎร์ธานี เริ่มลดระดับ

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านปากคู ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง หลังฝนทิ้งช่วงตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 26 พ.ย. ถนนบางสายรถสัญจรได้สะดวกขึ้น เหลือน้ำที่เข้าพื้นที่ลุ่มการเกษตรริมคลอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ทำให้ชาวสวนยางพาราไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ขณะที่มวลน้ำในคลองยังมีปริมาณสูงปริ่มตลิ่ง หากมีฝนตกซ้ำจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน

เช่นเดียวกับในพื้นที่ ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ และ ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ระดับน้ำค่อยๆ ลดลงจากฝนทิ้งช่วง และมีระบบระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นทำให้น้ำระบายลงทะเลได้สะดวก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชลประทานที่ 15 ได้ตรวจสอบและจัดการบริหารน้ำที่ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 ฝายคลองท่าทอง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ไชยคราม อ.ดอนสัก ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดสรรน้ำของพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ และ อ.ดอนสัก เพื่อกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร และจัดสรรมวลน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมากเกินไป ซึ่งขณะนี้มวลน้ำหน้าฝายมีแนวโน้มลดลง เจ้าหน้าที่จะทยอยปล่อยน้ำเพิ่ม เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าพื้นที่ล่างฝายมากเกินไป และลดผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่ล่างฝาย

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ส่งข้อมูลแจ้งเตือนผ่านศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสุราษฎร์ธานี โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่ในฝั่งทะเลอ่าวไทย ซึ่งสภาพอากาศช่วงเช้าของ จ.สุราษฎร์ธานี มีเมฆฝนจำนวนมาก ประชาชนพื้นที่เสี่ยงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อ่านข่าว

“ปัตตานี” น้ำท่วมเมือง หลังฝนถล่มติดต่อหลายวัน

ฝนตกต่อเนื่อง น้ำท่วมหลายพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

เมืองยะลาจม น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 20 ปี เตือน 6 อำเภอระวังน้ำป่า-ดินถล่ม