กรมชลประทานมั่นใจรับมือฝนตกได้-ไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่
โดยที่จ.สกลนครยังคงมีพื้นที่การเกษตรในอำเภอเต่างอย อ.พรรณานิคม อ.บ้านม่วงและอ.โพนนาแก้ว ได้รับความเสียหาย จากน้ำท่วมกว่า 50,000 ไร่ เนื่องจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมกว่า 43 แห่งยังมีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ แม้ทางจังหวัดจะพยายามเร่งระบายน้ำวันละ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีน้ำจากเทือกเขาภูพานไหลเข้ากว่า วันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้าและเอ่อล้นเข้าท่วมนาข้าว ขณะที่ทางจังหวัดสั่งให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจและรายงานความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับเทศบาลต.เดิด อ.เมืองยโสธร ที่นาข้าวกว่า 500 ไร่ ถูกน้ำจากแม่น้ำยังเอ่อล้นไหลเข้าท่วมเสียหาย ขณะเดียวกันก็ได้เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะยังมีน้ำเหนือจากเทือกเขาภูพานในจ.สกลนคร และจ.กาฬสินธุ์ไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการน้ำว่า ปีนี้จะไม่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 หลังซ่อมแซมประตูระบายน้ำ และปรับปรุงเขื่อนต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพในการรับน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สามารถรองรับปริมาณน้ำในช่วงฤดูฝนเดือนสิงหาคม- ตุลาคมนี้ได้ แต่หากฝนตกบริเวณท้ายเขื่อน อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเฉพาะพื้นที่ได้ แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีน้อยจะช่วยให้การระบายน้ำทำได้เร็ว