หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจหาสารพิษปนเปื้อนในอากาศและน้ำ รอบเกาะเสม็ด
วันนี้ (2 ส.ค.2556) กรมวิทยาศาสตร์ทางทะเล กองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่ปตท. จัดชุดนักประดาน้ำ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำในทะเล ในจุดเฝ้าระวังรอบเกาะเสม็ดอีกครั้ง ในบริเวณอ่าวพร้าง แหลมปลาต้ม เกาะกุฎี และแหลมพระ
โดยบริเวณแหลมพระ ด้านหัวเกาะเสม็ด ซึ่งอยู่ในทิศที่ลมพัดคราบน้ำมัน พบเรือลากทุ่นลอย เพื่อสกัดคราบน้ำมัน ซึ่งการตรวจด้วยเครื่องมือเบื้องต้น ระบุค่ากรด-ด่าง และค่าออกซิเจน อยู่ในเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐาน ขณะที่คราบดินน้ำมัน สังเกตเห็นได้ เฉพาะบริเวณทะเลนอกอ่าวพร้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ปตท.ตั้งข้อสังเกตว่า สภาพอากาศที่เห็นอาจไม่ตรงกับภาพของจิสด้า
ด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน และพยานบุคคล ตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่ว บริเวณทุ่นรับน้ำมัน ของบริษัทพีทีที จีซี จนถึงการหลุดรอดเข้ามาบริเวณอ่าวพร้าว ว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือความประมาท เพื่อประเมินว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ส่วนเรื่องการปนเปื้อนของสารพิษในอากาศและน้ำ ในวันนี้ (2 ส.ค.2556) กรมควบคุมโรค ระบุหลังตรวจสอบสภาพอากาศ ว่าแม้จะมีการปนเปื้อนของสารที่อาจจะก่อให้เกิดมะเร็ง ที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ติดต่อกัน เกิน 8 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะรุนแรง และอาเจียน ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ารักษาด้วยอาการนี้ มากกว่า 70 รายแล้ว
ส่วนการขนย้ายถุงปนเปื้อนคราบน้ำมันออกจากอ่าวพร้าวมีความคืบหน้าระดับนึงแล้ว ซึ่งเมื่อตอนเย็นเรือหลวงอ่างทองมาจอดหน้าหาด เพื่อช่วยขนย้ายถุงที่บรรจุ โดยคาดว่าขนย้ายได้เร็วที่สุด โดยเรือหลวงอ่างทองมีขนาดใหญ่กว่าเรือหลวงมันใน 3-5 เท่า คาดว่าจะขนย้ายสิ่งของออกจากหาดได้เร็ว