แม้ข่าวการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวแบดมินตันกรังด์ปรีซ์ แคนนาดา โอเพ่น 2013 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะไม่ค่อยเป็นที่รับรู้ของประชาชนมากนัก แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้น้องแน็ต ณิชชาอร จินดาพล นักแบดมินตัน สาวสวยวัย 22 ปี ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ของโลกได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นอันดับดีที่สุดนับตั้งแต่เล่นแบดมินตัน มากว่า 14 ปี
น้องแน็ตบอกว่า เริ่มเล่นกีฬาแบดมินตันมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพราะสุขภาพไม่ดี เช่นเดียวกับน้องแบด ภัทรภร จินดาพล พี่สาวแท้ๆ โดยตระเวนแข่งในภูเก็ตบ้านเกิด และจังหวัดใกล้เคียง กระทั่งอายุได้ 15 ปี ครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกสาวทั้งคู่ได้เล่นแบดมินตันอย่างจริงจัง กับเป้าหมายการติดทีมชาติ โดยคุณพ่อต้องไปๆมาๆระหว่างภูเก็ตกับกรุงเทพฯ ขณะที่คุณแม่ต้องลาออกจากราชการ แล้วทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เพื่อมาคอยดูแลลูก แม้ช่วงแรกจะยังทำใจไม่ได้ แต่คุณแม่บอกว่ายอมทำทุกอย่าง เพื่อความฝันของลูก
หลังต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ น้องแน๊ตก็ติดทีมชาติครั้งแรกในรายการอูเบอร์คัพรอบคัดเลือกโซนเอเชียที่นครราชสีมา และได้ร่วมทีมไปแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ 2010 ที่กว่างโจว ชุดคว้าเหรียญเงินในประเภททีมหญิง และยังอยู่ในทีมหญิงชุดคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2011 ที่อินโดนีเซียอีกด้วย ส่วนผลงานส่วนตัวนอกจากแชมป์เวียดนาม อินเตอร์เนชั่นแนลชาเลนจ์ในปี 2012 แล้ว ในปีนี้น้องแน็ตยังคว้าทั้งรองแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น และล่าสุดกับแชมป์แคนาดา โอเพ่น
โดยตอนนี้น้องแน็ตและครอบครัวสามารถซื้อบ้านแถวรังสิต คลอง 4 เพื่อจะได้อยู่กันอย่างสบายและพร้อมหน้า และแน่นอนว่าบ้านหลังนี้ยังมีพื้นที่มากพอในการจัดโชว์เหรียญ และโล่ห์รางวัลต่างๆที่คว้ามาได้ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากนี้น้องแน็ตก็ไม่มีอะไรให้กังวลในการทำหน้าที่ ทั้งเพื่อชาติ เพื่อครอบครัว เพื่อคุณแม่ และเพื่อฝันของตัวเอง
วันแม่ปีนี้ แม้น้องแน็ตกับคุณแม่จะไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนปีที่ผ่านๆมา แต่ก็ถือเป็นวันดีที่น้องแนตได้เดินทางไปเล่นลีกอาชีพที่อินเดีย ด้วยค่าเหนื่อยเกือบครึ่งล้านในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่คุณแม่ได้ติดตามไปดูแลลูกสาวในต่างแดนอีกด้วย ซึ่งก่อนเดินทางทั้งน้องแนต,น้องแบด และคุณพ่อจึงร่วมกันร้องเพลงอวยพรให้คุณแม่ผู้เสียสละ ออกมาเป็นภาพที่แสนอบอุ่น