กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเดินหน้าประท้วงรัฐบาลอียิปต์ต่อ

 

ซากความเสียหายที่เกิดจากการสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ยังคงมีให้เห็นทั่วเมือง ในขณะที่บรรยากาศโดยรวมยังคงอยู่ในความสงบ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน พร้อมบังคับใช้เคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 19.00 - 06.00 น. โดยมีผลบังคับใช้ในกรุงไคโรและอีก 13 จังหวัดทั่วประเทศ

 

การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 421 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 43 นาย บาดเจ็บ 3,572 คน ศพส่วนหนึ่งถูกนำไปเก็บไว้ที่สุเหร่าเพื่อรอญาติมารับกลับไป นอกจากนี้สื่อมวลชนยังเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 2 คน ได้แก่ นายมิค ดีน ช่างภาพชาวอังกฤษทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์และผู้สื่อข่าวหญิงของสำนักข่าว"กัลฟ์ นิวส์" ซึ่งผู้สื่อข่าวคนนี้อยู่ในช่วงวันหยุดเพื่อฉลองการสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด

 

แม้จะมีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คน แต่กลุ่มภราดรภาพมุสลิม ยังยืนยันว่า จะจัดการประท้วงต่อไปจนกว่านายโมฮัมเหม็ด มูร์ซี อดีตประธานาธิบดี ที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจแลtควบคุมตัวจะได้กลับมาทำหน้าที่บริหารประเทศอีก

 

นายอัสซัม อีเลเรี่ยน สมาชิกอาวุโสของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ในอียิปต์ได้ กลุ่มของพวกเขาที่มีอยู่ทั่วประเทศจะนั่งประท้วงและเดินขบวนต่อไป จนกว่าประชาธิปไตยและหลักกฎหมายจะกลับคืนสู่ประเทศ

 

นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ กล่าวว่า อียิปต์จำเป็นต้องใช้การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การใช้ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้ ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องประนีประนอมกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสนับสนุนนายมูร์ซี หรือฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล อังกฤษไม่สนับสนุนและขอประณามการใช้ความรุนแรง 

 

นอกจากนี้ผู้นำอังกฤษยังกล่าวแสดงความเสียใจ กรณีที่นายมิค ดีน ช่างภาพชาวอังกฤษเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในกรุงไคโร

 

นายบ็อบ คาร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย เผยว่า กังวลกับอนาคตของอียิปต์ และเห็นว่าปัญหานี้ควรแก้ไขด้วยสันติวิธี มีการเจรจากันระหว่างกองทัพและกลุ่มภราดรภาพมุสลิม เพื่อหาทางยุติการสูญเสียชีวิตจากการใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มสนับสนุนนายมูร์ซีเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่มีการปฏิวัติประชาชนโค่นล้มนายฮอสนี่ มูบารัค อดีตประธานาธิบดีอียิปต์

 

ในส่วนของคนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม สถานทูต ณ กรุงไคโร ได้แจ้งเตือนนักเรียน นักศึกษาและประชาชนให้อยู่ในเคหะสถาน และงดการเดินทางออกนอกที่พัก โดยเฉพาะในสถานที่เสี่ยงและสถานที่ชุมนุมพร้อมทั้งประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยง 9 จุดในกรุงไคโร

 

ส่วนนายยะยา เซะ นายกสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ระบุว่า คนไทยและนักเรียนไทยในกรุงไคโรที่มีประมาณ 2,000 คน ยังปลอดภัยดี แต่มีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากถนขณะนี้เต็มไปด้วย ทหาร และ เจ้าหน้าที่ และมีความเป็นไปได้ ว่ารัฐบาลอียิปต์อาจจะตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เนต ซึ่งจะส่งผลให้การติดต่อสื่อสารในเครือข่ายนักเรียนมีความยากลำบากยิ่งขึ้นในการแจ้งเตือนภัยถึงกัน ทำให้นักเรียนไทยส่วนหนึ่งมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย