"เรื่องของการประมงผิดกฎหมายด้วยแรงงานเถื่อน โรฮิงญา การใช้แรงงานทาส เป็นเป้าหมายที่เราจะต้องแก้ไขให้ได้โดยเร็วเพราะต่างชาติหรือองค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วนด้วยกัน ทั้งผู้ประกอบการ นายทุน นายหน้า ผู้หลอกลวงต่างๆ มากมาย แล้วก็มีข้าราชการของรัฐไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งบรรดาข้าราชการเหล่านี้เมื่อมีหลักฐานตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษทั้งวินัยและอาญา ไม่มีการยกเว้น สำหรับเหยื่อที่ได้รับผลกระทบนั้นก็ต้องมีมาตรการเยียวยา ดูแลสุขภาพให้เขามีความเข้มแข็งก่อนแล้วก็ส่งกลับคืนต้นทางของเขา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าววว่าตนจะพยายามใช้ประสบการณ์ในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายความมั่นคงมาก่อนมาแก้ปัญหาในเรื่องการลักลอบค้ามนุษย์ ซึ่งต้องมองทั้งมิติด้านความมั่นคงและเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยจะมีการใช้ทั้งกฎหมายปกติและการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวในการแก้ปัญหานี้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ต้องการตั้งศูนย์อพยพหรือศูนย์พักพิงเพิ่มเติมอีกแล้ว แต่จะมีเพียงการตั้งพื้นที่ควบคุมตัวเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่ดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพราะขณะนี้ปริมาณของคนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายมีเพิ่มขึ้นมากขณะที่สถานที่สำหรับควบคุมตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอยู่จำกัด
"ในส่วนของผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม ถ้าความผิดรุนแรงก็ต้องปรับย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อน แล้วดำเนินการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยและอาญา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมกับแสดงความกังวลเรื่องการดูแลเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งหากอยู่ในประเทศนานๆ ก็จะกลายเป็นปัญหา
"เราบอกว่าเราจะดูแลเขาด้วยสิทธิมนุษยชน แล้วจะยังไง ถึงเมื่อไร นานแค่ไหน งบประมาณอย่างไร เพราะวันนี้งบประมาณของเราเองก็จำกัดนะครับในการดูแลคนไทยก็ยังไม่ค่อยจะพอเลยนะ แล้วต้องดูแลคนเหล่านี้นี่ มันใช่หรือไม่นะครับ แล้วเราจะทำยังไง ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ผมเห็นใจนะครับ เราคนไทยอยู่แล้ว เป็นชาวพุทธอยู่แล้ว เพราะงั้นเราก็เห็นใจ ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใดก็เป็นมนุษย์นะครับ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบกับบ้านเมืองเราด้วยในเรื่องของการดูแล ใช้จ่ายงบประมาณนะครับ ทุกประเทศก็ไม่ค่อยจะมีใครรับไปนะ"
นายกฯ กล่าวว่า เร็วๆ นี้กระทรวงต่างประเทศ จะเชิญประเทศที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประเทศที่เป็นแบบอย่างในการแก้ปัญหาเหล่านี้มาพูดคุยหารือกันเพื่อหาทางออก
นอกจากประเด็นเรื่องการค้ามนุษย์แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกร โดยระบุว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหางบประมาณในการพาเกษตรกรในทุกจังหวัด ทุกกลุ่มงาน ทุกกลุ่มเกษตรกรทยอยไปดูงานต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ โดยจะเน้นเลือกเกษตรกรที่ไม่เคยไปต่างประเทศและเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการที่จะพัฒนาหรือมาถ่ายทอดความรู้ต่อได้