การประชุมรัฐสภาวันนี้ (28 ส.ค.) จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว. ในมาตรา 3 เรื่องจำนวน ส.ว.จากการเลือกตั้ง 200 คน ซึ่งยังคงต่อเนื่องจากการพิจารณาเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) โดยทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ยังคงอภิปรายไม่เห็นด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.ทั้ง 200 คน โดยเห็นว่าอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนตามมา ขณะที่ วิปรัฐบาล คาดว่า รัฐสภาจะลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว.ใน มาตรา 3 ได้ในช่วงบ่ายวันนี้ (28 ส.ค.)
การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว. ในวาระ 2 วันนี้ (28 ส.ค.) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 หลังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา สั่งปิดการประชุมรัฐสภา ไปเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.เมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ตามข้อตกลง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว. ในมาตรา 3 เรื่องจำนวน ส.ว.จากการเลือกตั้ง 200 คน ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
ภาพรวมของการอภิปรายสมาชิกรัฐสภาแบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดย สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน และ ส.ว.สรรหา ยังคงเน้นย้ำการอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการไขที่มาของ ส.ว.ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพราะจะขาดการคานอำนาจซึ่งกันและกันและอาจตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองโดยเสนอว่าควรให้มี ระบบ.ส.ว.สรรหาต่อไปเพราะเห็นว่า ประชาชนยังไม่มีความพร้อมที่จะเลือก
ขณะที่สมาชิกรัฐสภาฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.เลือกตั้งอภิปรายสนับสนุนให้มีการแก้ไขให้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งเพราะเห็นว่าการเลือก ส.ว.ที่มาจากความเชื่อมั่นของประชาชนและเชื่อมโยงกับระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน แต่ระบบสรรหาตั้งให้องค์กร 7 คนเป็นผู้สรรหาซึ่งพิจารณาแล้วจะเห็นว่าการสรรหามาจากพรรคพวกที่มีความใกล้ชิดกัน เห็นได้จากกระบวนการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมได้หารือ ถึงการปิดอภิปรายและลงมติในมาตรา 3 ที่ โดย ส.ส.พรรคเพื่อไทยเห็นว่าใช้เวลามากพอแล้ว แต่เนื่องจากยังมี ส.ส.ฝ่ายค้านที่ยังไม่ได้อภิปรายเป็นจำนวนมากและเพื่อให้การอภิปรายดำเนินต่อไปได้ จึงเห็นว่ายังไม่ควรปิดการอภิปรายในมาตรานี้ได้
ขณะที่ นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และ ประธานวิปรัฐบาล คาดว่าจะสามารถลงมติ ในมาตรา 3 ได้ในช่วงเวลาบ่ายวันนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากข้อตกลงจากเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) จะให้ผู้ที่เหลืออภิปรายได้ท่านละ 10นาที ซึ่งเหลือ ส.ส.ที่จะอภิปรายทั้งหมด 25 คน