รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันเองของ 2 ทีมจากโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก อินทรีเพื่อนตำรวจ พบกับ เชียงราย คู่นี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสมอกันในเกมลีก 2-2 โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ
เกมค่อนข้างจืดชืด แม้อินทรีเพื่อนตำรวจจะได้ทั้งลูกตั้งเตะ โอกาสทำเกมที่ดีกว่า แต่ยังใช้โอกาสเปลือง จบ 90 นาทีเสมอกันไป 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ยังเสมอกันอยู่ 0-0 เตะจุดโทษหาผู้ชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ แม่นยำกว่า ชนะไป 3-1 เข้ารอบรองชนะเลิศ
อีกคู่ บางกอก เอฟซี ทีมจากยามาฮ่าลีกวัน เปิดบ้าน พบกับ บางกอกกล๊าส ประตูเดียวที่เกิดขึ้นในคู่นี้เป็นประตูชัยของบางกอกกล๊าส จากซารูตะ ฮิโรโนริ นาที 28จบเกม บางกอกกล๊าสเข้ารอบรองชนะเลิศ เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ที่บุกไปชนะสิงห์ท่าเรือ 3-0
ส่วนเอสซีจีเมืองทอง บุกไปชนะ ปตท.ระยอง 4-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากประตูชัยของ มงคล นามนวด รอบรองชนะเลิศจะจับสลากวันที่ 3 ก.ย.
ฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย นัดที่ 2 ของชลบุรีบลูเวฟ แชมป์ไทยแลนด์ฟุตซอลลีก ลงสนามพบกับ ซานาเย กิติปาซาน แชมป์เก่าจากอิหร่าน ชลบุรีบลูเวฟหากไม่ชนะยังมีลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายหลังจากนัดแรกเสมอมา ส่วนกิติปาซาน หากชนะเกมนี้จะการันตีการเข้ารอบทันที
เกมแลกกันสนุก กิติปาซานนำชลบุรีบลูเวฟ 3-1 แต่ปูลปิส กุนซือของชลบุรีบลูเวฟ ใช้การเล่นแบบ พาวเวอร์เพลย์กดดันกิติปาซานจนเป็นผล ทำทีเดียว 3 ลูกรวดจากณัฐวุฒิ หมัดยะลาน 2 ลูก และซาปา อีก 1 ลูก จบเกม ชลบุรีบลูเวฟ พลิกล็อคชนะ กิติปาซาน 4-3 ชลบุรีบลูเวฟขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี ทันทีแข่ง 2 นัดมี 4 คะแนน นัดสุดท้ายในการเจอกับ อัลซาร์ด จากการ์ต้า เล่นเพียงแค่เสมอจะเข้ารอบทันที