รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปประเทศ เร่งรวบรวมมติเวทีระดมความเห็น
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ มีเวทีเดินหน้าปฏิรูปประเทศ คู่ขนานกับเวทีปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลว่า ไม่ทราบแนวทาง แต่หากทำแล้วเกิดประโยชน์ ควรจะทำในสิ่งที่เราช่วยกันได้ อาจจะแยกเวทีกันได้ เพราะคนที่จะตัดสินคือสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนซึ่งติดตามอยู่
ในส่วนของรัฐบาลวันที่ 5 ก.ย.2556 นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ประชุมกับคณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากเวทีใหญ่ ที่มีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงาน เพื่อรวบรวมประเด็นที่มีการศึกษาของคณะกรรมการชุดต่างๆ เช่น คอป. สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง เป็นต้น
โดยเฉพาะในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมว่าประเด็นใดที่มีการตกผลึกเห็นตรงกันแล้ว ควรที่จะมาดำเนินการพิจารณาก่อน ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 2 โดยจะมีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเสนอในเวทีสภาปฏิรูปต่อไป
ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า คณะประสานงานภาคประชาชนพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช, นายกษิต ภิรมย์, นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ได้เดินทางเข้าพบนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำแนะนำการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ
คุณหญิงกัลยา เปิดเผยว่า การเข้าพบนายอานันท์ เป็นการหารือกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีประสบการณ์การปฏิรูปประเทศมาก่อน ซึ่งนายอานันท์มอบหนังสือแนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ข้อเสนอต่อพรรคการเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้สมาชิกพรรคได้อ่านและทำความเข้าใจว่าจะทำอะไรให้บ้านเมืองได้ดีกว่านี้ ซึ่งพรรคจะนำข้อคิดในหนังสือไปพัฒนาเป็นนโยบายของพรรคต่อไป
สำหรับการดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ มีการยืนยันว่า จะไม่เปิดเวทีปฏิรูปการเมืองคู่ขนานกับรัฐบาล จึงไม่มีการเชิญนายอานันท์และคนอื่นเข้าร่วมกระบวนการของพรรค แต่การเข้าพบผู้ใหญ่เป็นการขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์เท่านั้น หลังจากนี้จะประสานงานขอเข้าพบ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และนายคณิต ณ นคร อดีตประธาน คอป. ต่อไป
ด้านนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ที่ระบุว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จะร่วมกับภาคประชาชนตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทยว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการขององค์กรภาคประชาชน รวม 7 กลุ่ม ในการจัดตั้งสภาปฏิรูปประทศไทยภาคประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิฯแต่อย่างใด
แต่ภาคประชาชนได้ใช้สถานที่ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯในการจัดงานและแถลงข่าว นพ.นิรันดร์ ระบุว่า ส่วนตัวเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในเรื่องสถานนี่จัดงานเท่านั้น ซึ่งตนก็เห็นว่าเป็นเรื่องของประชาชน จึงควรสนับสนุน ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯ
แต่ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่ทราบถึงแนวทางการดำเนินการของภาคประชาชนนี้ และไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ที่ออกมาระบุว่า จะเปิดตัวสภาปฏิรูปภาคประชาชนในวันที่ 15 ก.ย.2556 หรือไม่