นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ หรือ กนย. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนย. มีมติเพิ่มเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิตสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จากเดิม ไร่ละ 1,260 บาท เพิ่มเป็นไร่ละ 2,520 บาท ในระยะเวลา 7 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2557 และจำกัดปริมาณให้การช่วยเหลือไม่เกิน 25 ไร่ โดย กนย.จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (10 ก.ย.) ซึ่งหากผ่านมติในที่ประชุมจะทำให้ใช้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมที่วงเงินประมาณ 11,000 ล้านบาท เป็น 22,000 ล้านบาท
สำหรับการเพิ่มวงเงินช่วยเหลือในอัตราใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้ตกลงกับแกนนำชาวสวนยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ ในการประชุมร่วมกันที่จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ราคายางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 78 บาท หากมีการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตในอัตราไร่ละ 2,250 บาท จะเท่ากับรัฐบาลช่วยเหลือราคายางพารากิโลกรัมละ 12 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้ความช่วยเหลืออยู่ที่กิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งยังอยู่บนแนวคิดที่เป็นการช่วยเหลือปัจจัยการผลิต และไม่เข้าไปแทรกแซงกลไกตลาดยางพารา
ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ส่งออกและภาคเอกชน เพราะรัฐบาลไม่ได้เข้าไปยุ่งกับกลไกตลาด และหากต่อไปราคายางพาราปรับตัวดีขึ้นจนเกินกว่ากิโลกรัมละ 90 บาท ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ส่งผลดีต่อเกษตรกร และเชื่อว่าเกษตรกรจะเข้าใจว่า รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือเต็มที่แล้ว หากราคายางพาราผันผวนและลดต่ำลงกว่านี้
ส่วนแนวคิดการปิดถนนบริเวณด่านพรมแดนสะเดากับด่านท่าเรือน้ำลึก เพื่อกดดันรัฐบาลของแกนนำชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ในวันที่ 14 กันยายนนี้ ยังไม่มีความเป็นเอกภาพ เมื่อนายกาจบัณฑิต รามมาก แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ยืนยันว่าจำเป็นต้องปิดเส้นทางธุรกิจ เพื่อให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง
ขณะที่ นายธนพล ทองหวาน กรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย ประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนไหว จนกว่าจะถึงวันที่ 20 กันยายน เพื่อรอฟังผลการปรับราคายางจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี