เปิดผลกระทบการค้า-ท่องเที่ยว หากปิดด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา
การค้าขายในเขตเทศบาลเมืองสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลาเป็นไปอย่างคึกคักเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลเซียและชาวสิงคโปร์เข้ามาเที่ยวพักผ่อนเป็นจำนวนมาก แต่กระแสข่าวการชุมนุมปิดด่านพรมแดนสะเดา และท่าเรือน้ำลึกในจังหวัดสงขลาของเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันภาคใต้ ก็ได้สร้างความกังวลให้กับแม่ค้าในพื้นที่
ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์และด่านพรมแดนสะเดา ซึ่งอยู่ติดกับรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย รวมถึงด่านท่าเรือน้ำลึกของ จ.สงขลาในแต่ละปีมีมูลค่านำเข้าและส่งออกสินค้ารวมกันราว 500,000 ล้านบาท ส่วนการเข้าออกของนักท่องเที่ยวในแต่วันจะมีมากกว่า 5,000 คน แต่หากเป็นช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศไทยหรือประเทศมาเลเซียก็จะถึงเกือบ 20,000 คน
นายสมพร สิริโปราณานนท์ ประธานหอการค้า จ.สงขลาเห็นว่า หากมีการปิดด่านพรมแดนเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างหนัก จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเจรจาเพื่อหาทางออก
ด้านกาจบัณฑิต รามมาก แกนนำชาวสวนยาง จ.สงขลา ระบุว่า รัฐบาลต้องลงพื้นที่มาทำข้อตกลงในการช่วยเหลือชาวสวนยางภายในวันที่ 13 ก.ย. แต่หากไม่เป็นไปตามนั้น ในวันที่ 14 ก.ย.ก็พร้อมจะยกระดับการชุมนุมตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งแกนนำได้นัดหมายไว้
ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองในอำเภอสะเดา ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ทั้งในเรื่องกำลังพล แผนการเผชิญเหตุ และเส้นทางสำรอง ส่วนการดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลเซียหากเกิดการชุมนุมปิดถนนขึ้นจริง ก็จะแจ้งให้ทางมาเลเซียรับทราบเพื่อปรับเปลี่ยนเส้นทางในการเดินทางเข้าประเทศไทย