ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อภิรักษ์" แนะรัฐ ดึงเอกชนลงทุน "รถไฟความเร็วสูง" ช่วยลดงบเงินกู้

การเมือง
20 ก.ย. 56
11:05
73
Logo Thai PBS
 "อภิรักษ์" แนะรัฐ ดึงเอกชนลงทุน "รถไฟความเร็วสูง" ช่วยลดงบเงินกู้

อภิรักษ์ โกษะโยธิน เสนอรัฐบาล ดึงนักลงทุนเอกชน ลงขันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หวังช่วยลดความเสี่ยงหนี้สาธารณะ-ความกังวลปชช.

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท โดยขอแปรญัตติ มาตรา 5 วรรค 2 ขอลดงบประมาณจาก 2 ล้านล้านบาท เหลือ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมเสนอให้รัฐบาลหาเอกชนมาร่วมลงทุนในการดำเนินการ ตามพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 หรือ พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดงบประมาณจาก 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการทุจริตของโครงการ และลดความกังวลของประชาชนต่อปัญหาหนี้สาธารณะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังแนะนำว่า ให้นำงบประมาณที่เป็นส่วนต่างไปพัฒนาเทคโนโลยี หรือบุคลากร ให้มีความพร้อมให้ทำงานร่วมกับการลงทุนครั้งนี้ 

 
เช่นเดียวกับ นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอแปรญัตติในการลดเงินลงทุนเหลือ 400,000 ล้านบาท และสามารถกู้เงินได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกต กรณีที่รัฐบาลระบุว่า การออกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน จะช่วยให้กาารดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และรับประกันความมั่นใจว่าโครงการนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี 

    

 
นายกรณ์ ชี้แจงว่า ปัญหาของการดำเนินงาน ไม่ใช่ที่มาของเงิน หรือการต้องบังคับใช้กฏหมาย แต่ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการงบประมาณ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่า การออกกฏหมายพิเศษ จะช่วยให้การลงทุนใด ๆ มีคุณภาพ และเกิดประสิทธิผล โดยได้ยกตัวอย่าง การออกพ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกรณีเร่งด่วนมากกว่าการลงทุน 2 ล้านล้านบาท แต่ถึงขณะนี้ การดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าใดนัก 
 
ทั้งนี้ ต้องการให้ฝ่ายบริหารได้คำนึงถึงความคุ้มค่าของการลุงทุน ตลอดจนขีดความสามารถของประชาชนที่จะใช้บริการรถไฟรางคู่ หรือรถไฟความเร็วสูงนี้ได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่า โครงการดังกล่าว ยังต้องมีการศึกษาอีกมาก ตลอดจนผลกระทบ และประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในอนาคต
 
ด้านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวว่า รัฐบาลมองคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า และไม่ได้หาความคุ้มค่าจากการเก็บค่าโดยสารจากประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่รถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่นั้น จะเป็นการสร้างเมือง สร้างรายได้ เช่นเดียวกับการสร้างถนนของรัฐบาลเมื่อ 10 ปีที่ผ่าน ที่ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 600,000 ล้านบาท ขณะเดียว การตั้งข้อสังเกตจากพรรคฝ่ายค้าน เรื่อง งบประมาณการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นนั้น นายชัชชาติ ระบุว่า การศึกษาในครั้งแรกยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่เมื่อทำการศึกษาอย่างละเอียดก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้นที่ได้ถูกตั้งข้อสังเกตไว้
 
นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ขอใช้สิทธิ์พาดพิงคำชี้แจงของนายชัชชาติ ถึงกรณีความคุ้มค่าของการลงทุน โดยตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลอาจมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขของความคุ้มทุนให้เกินร้อยละ 12 ตามที่สภาพัฒน์ฯได้กำหนดไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง