ผู้อพยพชาวโรฮิงญาเปิดเผยความโหดร้ายบนเรืออพยพ
นายมาร์ติน พาเชียนช์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซี ได้พูดคุยผู้อพยพชาวโรฮิงญาจากเมียนมาและบังคลาเทศ ที่รอดชีวิตจากเหตุเรือล่มที่นอกชายฝั่งของประเทศอินโดนีเซียและได้รับการช่วยเหลือมาพักพิงอยู่ที่เมืองท่าลังซา ในจังหวัดอาเจะห์ โดยจากการพูดคุยกับผู้รอดชีวิต 3 คน ต่างเล่าตรงกันถึงความโหดร้ายบนเรือ เมื่อผู้อพยพต่อสู้แย่งชิงอาหารที่กำลังจะหมดลง มีคนถูกแทง ถูกแขวนคอและถูกจับโยนลงทะเล ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน
หากเรื่องจากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตเป็นความจริง นานาชาติก็จะเพิ่มความกดดันต่อชาติในเอเชียให้ร่วมกันหาทางคลี่คลายวิกฤตผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่กำลังประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เรือของผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่ล่มในทะเลนอกชายฝั่งอินโดนีเซียรอนแรมอยู่ในทะเลมาเป็นเวลาถึง 2 เดือน และถูกลูกเรือทิ้งให้เผชิญชะตากรรมที่แล้วร้าย ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงของอินโดนีเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.2558) โดยผู้อพยพที่รอดชีวิตได้เข้าพักพิงในโกดังสินค้าบนชายฝั่งเมืองลังซา และส่วนใหญ่ล้มป่วยจากการขาดอาหารและขาดน้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียได้ขึ้นทะเบียนและคัดแยกผู้อพยพออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ชาวโรฮิงญาจากเมียนมา กับชาวโรฮิงญาจากบังคลาเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุทะเลาะวิวาท
ส่วนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย มีการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวโรฮิงญา โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวเปิดเผยว่าได้รวบรวมอาหารและเวชภัณฑ์ที่รับบริจาคและกำลังรอการตรวจปล่อยจากทางการ ก่อนจะส่งความช่วยเหลือเหล่านี้ไปให้กับผู้อพยพชาวโรฮิงญา
หนึ่งในกลุ่มนักเคลื่อนไหวของมาเลเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลของชาติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตผู้อพยพโรฮิงญาจะต้องเปิดการหารือพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจังและจำเป็นต้องร่วมกันกดดันเมียนมาให้ยุติการผลักดันชาวโรฮิงญาออกมา