แซนดี้ สตูวิค ลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ใกล้คว้าแชมป์ F3
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในการแข่งขันยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 ที่สนามมอนซ่าเซอร์กิต ในอิตาลี แซนดี้ในสังกัดทีม อาร์พี มอเตอร์สปอร์ต ที่ไม่เคยขับสนามนี้มาก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยในเรซที่ 1 เข้าเป็นอันดับ 4 ก่อนจะคว้าแชมป์เข้าเส้นชัยคนแรกในเรซที่ 2 ด้วยเวลา 35 นาที 39.433 วินาที ก่อนหน้านี้เคยขึ้นโพเดี้ยมในฐานะแชมป์มาแล้วในการแข่งขันสนามแรกที่ฝรั่งเศส สนามที่ 6 ที่เบลเยี่ยม
หลังจากผ่านไป 7 สนามทำให้มีคะแนนรวม 239 คะแนน นำเอ็ด โจนส์ ที่อยู่ในอันดับ 2 ถึง 20 คะแนน ความหวังที่จะคว้าแชมป์ในสนามสุดท้ายที่คาตาลันย่า เซอร์กิต ในประเทศสเปนในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ยังมีให้ลุ้นกันสนุก สำหรับสนามสุดท้ายที่ประเทศสเปนวันที่ 9-10 พฤศจิกายนนี้
ฤดูกาลนี้เป็นปีที่แซนดี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะย้ายมาร่วมทีมอาร์พี มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นทีมสัญชาติอิตาลี และเป็นทีมอดีตแชมป์ที่มีชื่อเสียง หลังจากย้ายมาร่วมทีมใหม่ผลงานเริ่มพัฒนาดีต่อเนื่องตั้งแต่เปิดฤดูกาล ขับได้นิ่งขึ้น และไม่ค่อยเกิดปัญหารถพังแข่งไม่จบเหมือนที่ผ่านมา
ไม่ว่าแซนดี้จะคว้าแชมป์ หรือครองแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ แต่อนาคตอันใกล้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า เนื่องจากผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ทำให้ทีมดังในระดับ จีพี 2 กำลังให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมทีมฤดูกาลหน้า
ซึ่งปลายปีนี้แซนดี้จะต้องไปทดสอบสนามให้ทีมต่างๆฝีมือกันอีกรอบก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญา การแข่งขันในจีพี 2 เปรียบเหมือนบันไดขั้นสำคัญที่นักแข่งจะได้ขึ้นแท่นรอเข้าสู่วงการ F1 ต่อไป
แต่ข้อแม้และเป็นปัญหาใหญ่ของนักแข่งระดับยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 และ จีพี 2 ก็คือเรื่องเงินทุนสนับสนุน เมื่อทีมตัดสินใจยื่นข้อเสนอดึงตัวมาแล้ว นักแข่งต้องเอาเงินไปให้กับทีมซึ่งปีนี้แซนดี้ต้องเอาเงินไปให้ทีม อาร์พี มอเตอร์สปอร์ตแล้วกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนทีมในระดับ จีพี 2 นักแข่งต้องจ่ายเงินให้กับทีมประมาณ 20 ล้านบาท ต่างจากนักแข่งระดับ F1 ที่ทีมจะเป็นฝ่ายต้องเสียเงินจ้างนักแข่ง